10.1.8 ปทีโปปมสุตฺต
“อานาปานสฺสติสมาธิ, ภิกฺขเว, ภาวิโต พหุลีกโต มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส. กถํ ภาวิโต จ, ภิกฺขเว, อานาปานสฺสติสมาธิ กถํ พหุลีกโต มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส?
อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรญฺญคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุญฺญาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สติํ อุปฏฺฐเปตฺวา. โส สโตว อสฺสสติ, สโตว ปสฺสสติ. ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ …เป… ‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ, ‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามี’ติ สิกฺขติ. เอวํ ภาวิโต โข, ภิกฺขเว, อานาปานสฺสติสมาธิ เอวํ พหุลีกโต มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส.
อหมฺปิ สุทํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพว สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺโธ โพธิสตฺโตว สมาโน อิมินา วิหาเรน พหุลํ วิหรามิ. ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, อิมินา วิหาเรน พหุลํ วิหรโต เนว กาโย กิลมติ น จกฺขูนิ; อนุปาทาย จ เม อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘เนว เม กาโย กิลเมยฺย น จกฺขูนิ, อนุปาทาย จ เม อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺเจยฺยา’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘เย เม เคหสิตา สรสงฺกปฺปา เต ปหีเยยฺยุนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺยนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘อปฺปฏิกูลญฺจ ปฏิกูลญฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโน’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหเรยฺยํ สโต จ สมฺปชาโน, สุขญฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทยฺยํ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ— อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘สพฺพโส รูปสญฺญานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสญฺญานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสญฺญานํ อมนสิการา อนนฺโต อากาโสติ อากาสานญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘สพฺพโส อากาสานญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม อนนฺตํ วิญฺญาณนฺติ วิญฺญาณญฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘สพฺพโส วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม นตฺถิ กิญฺจีติ อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘สพฺพโส อากิญฺจญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เจปิ อากงฺเขยฺย— ‘สพฺพโส เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ สมติกฺกมฺม สญฺญาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยนฺ’ติ, อยเมว อานาปานสฺสติสมาธิ สาธุกํ มนสิ กาตพฺโพ.
เอวํ ภาวิเต โข, ภิกฺขเว, อานาปานสฺสติสมาธิมฺหิ เอวํ พหุลีกเต, สุขญฺเจ เวทนํ เวทยติ, สา ‘อนิจฺจา’ติ ปชานาติ, ‘อนชฺโฌสิตา’ติ ปชานาติ, ‘อนภินนฺทิตา’ติ ปชานาติ; ทุกฺขญฺเจ เวทนํ เวทยติ, สา ‘อนิจฺจา’ติ ปชานาติ, ‘อนชฺโฌสิตา’ติ ปชานาติ, ‘อนภินนฺทิตา’ติ ปชานาติ; อทุกฺขมสุขญฺเจ เวทนํ เวทยติ, ‘สา อนิจฺจา’ติ ปชานาติ, ‘อนชฺโฌสิตา’ติ ปชานาติ, ‘อนภินนฺทิตา’ติ ปชานาติ.
สุขญฺเจ เวทนํ เวทยติ, วิสํยุตฺโต นํ เวทยติ; ทุกฺขญฺเจ เวทนํ เวทยติ, วิสํยุตฺโต นํ เวทยติ; อทุกฺขมสุขญฺเจ เวทนํ เวทยติ, วิสํยุตฺโต นํ เวทยติ. โส กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยมาโน ‘กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ, ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยมาโน ‘ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ, ‘กายสฺส เภทา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา อิเธว สพฺพเวทยิตานิ อนภินนฺทิตานิ สีตีภวิสฺสนฺตี’ติ ปชานาติ.
เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, เตลญฺจ ปฏิจฺจ, วฏฺฏิญฺจ ปฏิจฺจ เตลปฺปทีโป ฌาเยยฺย, ตเสฺสว เตลสฺส จ วฏฺฏิยา จ ปริยาทานา อนาหาโร นิพฺพาเยยฺย; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยมาโน ‘กายปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ, ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยมาโน ‘ชีวิตปริยนฺติกํ เวทนํ เวทยามี’ติ ปชานาติ, ‘กายสฺส เภทา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา อิเธว สพฺพเวทยิตานิ อนภินนฺทิตานิ สีตีภวิสฺสนฺตี’ติ ปชานาตี”ติ.
อฏฺฐมํ.