11.3 พฺรหฺมทณฺฑกถา
อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ— “ภควา มํ, ภนฺเต, ปรินิพฺพานกาเล เอวมาห— ‘เตน หานนฺท, สํโฆ มมจฺจเยน ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑํ อาณาเปตู’”ติ. “ปุจฺฉิ ปน ตฺวํ, อาวุโส อานนฺท, ภควนฺตํ— ‘กตโม ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมทณฺโฑ’”ติ? “ปุจฺฉิํ โขหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ— ‘กตโม ปน, ภนฺเต, พฺรหฺมทณฺโฑ’ติ? ‘ฉนฺโน, อานนฺท, ภิกฺขุ ยํ อิจฺเฉยฺย ตํ วเทยฺย. ภิกฺขูหิ ฉนฺโน ภิกฺขุ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ, นานุสาสิตพฺโพ’”ติ. “เตน หาวุโส อานนฺท, ตฺวํเยว ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑํ อาณาเปหี”ติ. “กถาหํ, ภนฺเต, ฉนฺนสฺส ภิกฺขุโน พฺรหฺมทณฺฑํ อาณาเปมิ, จณฺโฑ โส ภิกฺขุ ผรุโส”ติ? “เตน หาวุโส อานนฺท, พหุเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ คจฺฉาหี”ติ. “เอวํ, ภนฺเต”ติ โข อายสฺมา อานนฺโท เถรานํ ภิกฺขูนํ ปฏิสฺสุตฺวา มหตา ภิกฺขุสํเฆน สทฺธิํ ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ นาวาย อุชฺชวนิกาย โกสมฺพิํ อุชฺชวิ, นาวาย ปจฺโจโรหิตฺวา รญฺโญ อุเทนสฺส อุยฺยานสฺส อวิทูเร อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล นิสีทิ. เตน โข ปน สมเยน ราชา อุเทโน อุยฺยาเน ปริจาเรสิ สทฺธิํ โอโรเธน. อสฺโสสิ โข รญฺโญ อุเทนสฺส โอโรโธ— “อมฺหากํ กิร อาจริโย อโยฺย อานนฺโท อุยฺยานสฺส อวิทูเร อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล นิสินฺโน”ติ. อถ โข รญฺโญ อุเทนสฺส โอโรโธ ราชานํ อุเทนํ เอตทโวจ— “อมฺหากํ กิร, เทว, อาจริโย อโยฺย อานนฺโท อุยฺยานสฺส อวิทูเร อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล นิสินฺโน. อิจฺฉาม มยํ, เทว, อยฺยํ อานนฺทํ ปสฺสิตุนฺ”ติ. “เตน หิ ตุมฺเห สมณํ อานนฺทํ ปสฺสถา”ติ.
อถ โข รญฺโญ อุเทนสฺส โอโรโธ เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข รญฺโญ อุเทนสฺส โอโรธํ อายสฺมา อานนฺโท ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข รญฺโญ อุเทนสฺส โอโรโธ อายสฺมตา อานนฺเทน ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปญฺจ อุตฺตราสงฺคสตานิ ปาทาสิ. อถ โข รญฺโญ อุเทนสฺส โอโรโธ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ราชา อุเทโน เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข ราชา อุเทโน โอโรธํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ. ทิสฺวาน โอโรธํ เอตทโวจ— “อปิ นุ โข ตุมฺเห สมณํ อานนฺทํ ปสฺสิตฺถา”ติ? “อปสฺสิมฺหา โข มยํ, เทว, อยฺยํ อานนฺทนฺ”ติ. “อปิ นุ ตุมฺเห สมณสฺส อานนฺทสฺส กิญฺจิ อทตฺถา”ติ? “อทมฺหา โข มยํ, เทว, อยฺยสฺส อานนฺทสฺส ปญฺจ อุตฺตราสงฺคสตานี”ติ. ราชา อุเทโน อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ— “กถญฺหิ นาม สมโณ อานนฺโท ตาว พหุํ จีวรํ ปฏิคฺคเหสฺสติ. ทุสฺสวาณิชฺชํ วา สมโณ อานนฺโท กริสฺสติ, ปคฺคาหิกสาลํ วา ปสาเรสฺสตี”ติ.
อถ โข ราชา อุเทโน เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สทฺธิํ สมฺโมทิ. สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา อุเทโน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ— “อาคมา นุ ขฺวิธ, โภ อานนฺท, อมฺหากํ โอโรโธ”ติ? “อาคมาสิ โข เต อิธ, มหาราช, โอโรโธ”ติ. “อปิ ปน โภโต อานนฺทสฺส กิญฺจิ อทาสี”ติ? “อทาสิ โข เม, มหาราช, ปญฺจ อุตฺตราสงฺคสตานี”ติ. “กิํ ปน ภวํ อานนฺโท ตาว พหุํ จีวรํ กริสฺสตี”ติ? “เย เต, มหาราช, ภิกฺขู ทุพฺพลจีวรา เตหิ สทฺธิํ สํวิภชิสฺสามี”ติ. “ยานิ โข ปน, โภ อานนฺท, โปราณกานิ ทุพฺพลจีวรานิ ตานิ กถํ กริสฺสถา”ติ? “ตานิ, มหาราช, อุตฺตรตฺถรณํ กริสฺสามา”ติ. “ยานิ ปน, โภ อานนฺท, โปราณกานิ อุตฺตรตฺถรณานิ ตานิ กถํ กริสฺสถา”ติ? “ตานิ, มหาราช, ภิสิจฺฉวิโย กริสฺสามา”ติ. “ยา ปน, โภ อานนฺท, โปราณกา ภิสิจฺฉวิโย ตา กถํ กริสฺสถา”ติ? “ตา, มหาราช, ภูมตฺถรณํ กริสฺสามา”ติ. “ยานิ ปน, โภ อานนฺท, โปราณกานิ ภูมตฺถรณานิ ตานิ กถํ กริสฺสถา”ติ? “ตานิ, มหาราช, ปาทปุญฺฉนิโย กริสฺสามา”ติ. “ยา ปน, โภ อานนฺท, โปราณกา ปาทปุญฺฉนิโย ตา กถํ กริสฺสถา”ติ? “ตา, มหาราช, รโชหรณํ กริสฺสามา”ติ. “ยานิ ปน, โภ อานนฺท, โปราณกานิ รโชหรณานิ ตานิ กถํ กริสฺสถา”ติ? “ตานิ, มหาราช, โกฏฺเฏตฺวา จิกฺขเลฺลน มทฺทิตฺวา ปริภณฺฑํ ลิมฺปิสฺสามา”ติ.
อถ โข ราชา อุเทโน— “สพฺเพวิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา โยนิโส อุปเนนฺติ, น กุลวํ คเมนฺตี”ติ— อายสฺมโต อานนฺทสฺส อญฺญานิปิ ปญฺจ ทุสฺสสตานิ ปาทาสิ. อยญฺจรหิ อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปฐมํ จีวรภิกฺขา อุปฺปชฺชิ จีวรสหสฺสํ. อถ โข อายสฺมา อานนฺโท เยน โฆสิตาราโม เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข อายสฺมา ฉนฺโน เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ฉนฺนํ อายสฺมา อานนฺโท เอตทโวจ— “สํเฆน เต, อาวุโส ฉนฺน, พฺรหฺมทณฺโฑ อาณาปิโต”ติ.
“กตโม ปน, ภนฺเต อานนฺท, พฺรหฺมทณฺโฑ อาณาปิโต”ติ? “ตฺวํ, อาวุโส ฉนฺน, ภิกฺขู ยํ อิจฺเฉยฺยาสิ ตํ วเทยฺยาสิ. ภิกฺขูหิ ตฺวํ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ, นานุสาสิตพฺโพ”ติ. “นนฺวาหํ, ภนฺเต อานนฺท, หโต เอตฺตาวตา, ยโตหํ ภิกฺขูหิ เนว วตฺตพฺโพ, น โอวทิตพฺโพ, นานุสาสิตพฺโพ”ติ ตตฺเถว มุจฺฉิโต ปปโต. อถ โข อายสฺมา ฉนฺโน พฺรหฺมทณฺเฑน อฏฺฏียมาโน หรายมาโน ชิคุจฺฉมาโน เอโก วูปกฏฺโฐ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต นจิรเสฺสว— ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ— พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิ. “ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา”ติ อพฺภญฺญาสิ. อญฺญตโร จ ปนายสฺมา ฉนฺโน อรหตํ อโหสิ. อถ โข อายสฺมา ฉนฺโน อรหตฺตํ ปตฺโต เยนายสฺมา อานนฺโท เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ— “ปฏิปฺปสฺสมฺเภหิ ทานิ เม, ภนฺเต อานนฺท, พฺรหฺมทณฺฑนฺ”ติ. “ยทคฺเคน ตยา, อาวุโส ฉนฺน, อรหตฺตํ สจฺฉิกตํ ตทคฺเคน เต พฺรหฺมทณฺโฑ ปฏิปฺปสฺสทฺโธ”ติ. อิมาย โข ปน วินยสงฺคีติยา ปญฺจ ภิกฺขุสตานิ อนูนานิ อนธิกานิ อเหสุํ. ตสฺมา อยํ วินยสงฺคีติ “ปญฺจสติกา”ติ วุจฺจตีติ.
ปญฺจสติกกฺขนฺธโก เอกาทสโม.
อิมมฺหิ ขนฺธเก วตฺถู เตวีสติ.
ตสฺสุทฺทานํ
ปรินิพฺพุเต สมฺพุทฺเธ,
เถโร กสฺสปสวฺหโย;
อามนฺตยิ ภิกฺขุคณํ,
สทฺธมฺมมนุปาลโก.
ปาวายทฺธานมคฺคมฺหิ,
สุภทฺเทน ปเวทิตํ;
สงฺคายิสฺสาม สทฺธมฺมํ,
อธมฺโม ปุเร ทิปฺปติ.
เอเกนูน ปญฺจสตํ,
อานนฺทมฺปิ จ อุจฺจินิ;
ธมฺมวินยสงฺคีติํ,
วสนฺโต คุหมุตฺตเม.
อุปาลิํ วินยํ ปุจฺฉิ,_
สุตฺตนฺตานนฺทปณฺฑิตํ;
ปิฏกํ ตีณิ สงฺคีติํ,
อกํสุ ชินสาวกา.
ขุทฺทานุขุทฺทเก นานา,
ยถาปญฺญตฺติวตฺตนา;
น ปุจฺฉิ อกฺกมิตฺวาน,
วนฺทาเปสิ น ยาจิ จ.
ปพฺพชฺชํ มาตุคามสฺส,
สทฺธาย ทุกฺกฏานิ เม;
ปุราโณ พฺรหฺมทณฺฑญฺจ,
โอโรโธ อุเทเนน สห.
ตาว พหุ ทุพฺพลญฺจ,
อุตฺตรตฺถรณา ภิสิ;_
ภูมตฺถรณา ปุญฺฉนิโย,
รโช จิกฺขลฺลมทฺทนา.
สหสฺสจีวรํ อุปฺปชฺชิ,
ปฐมานนฺทสวฺหโย;
ตชฺชิโต พฺรหฺมทณฺเฑน,
จตุสฺสจฺจํ อปาปุณิ;
วสีภูตา ปญฺจสตา,
ตสฺมา ปญฺจสตี อิติ.
ปญฺจสติกกฺขนฺธโก นิฏฺฐิโต.