Skip to content

17.1 อนิสฺสิตวคฺค

417.
1939

เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข อายสฺมา อุปาลิ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา อุปาลิ ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “กติหิ นุ โข, ภนฺเต, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ยาวชีวํ นานิสฺสิเตน วตฺถพฺพนฺ”ติ?

1940

“ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ยาวชีวํ นานิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อุโปสถํ น ชานาติ, อุโปสถกมฺมํ น ชานาติ, ปาติโมกฺขํ น ชานาติ, ปาติโมกฺขุทฺเทสํ น ชานาติ, อูนปญฺจวโสฺส โหติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ยาวชีวํ นานิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ยาวชีวํ อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อุโปสถํ ชานาติ, อุโปสถกมฺมํ ชานาติ, ปาติโมกฺขํ ชานาติ, ปาติโมกฺขุทฺเทสํ ชานาติ, ปญฺจวโสฺส วา โหติ อติเรกปญฺจวโสฺส วา—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ยาวชีวํ อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

1941

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ยาวชีวํ นานิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? ปวารณํ น ชานาติ, ปวารณากมฺมํ น ชานาติ, ปาติโมกฺขํ น ชานาติ, ปาติโมกฺขุทฺเทสํ น ชานาติ, อูนปญฺจวโสฺส โหติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ยาวชีวํ นานิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ยาวชีวํ อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? ปวารณํ ชานาติ, ปวารณากมฺมํ ชานาติ, ปาติโมกฺขํ ชานาติ, ปาติโมกฺขุทฺเทสํ ชานาติ, ปญฺจวโสฺส วา โหติ อติเรกปญฺจวโสฺส วา—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ยาวชีวํ อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ.

1942

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ยาวชีวํ นานิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อาปตฺตานาปตฺติํ น ชานาติ, ลหุกครุกํ อาปตฺติํ น ชานาติ, สาวเสสานวเสสํ อาปตฺติํ น ชานาติ, ทุฏฺฐุลฺลาทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ น ชานาติ, อูนปญฺจวโสฺส โหติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ยาวชีวํ นานิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ยาวชีวํ อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อาปตฺตานาปตฺติํ ชานาติ, ลหุกครุกํ อาปตฺติํ ชานาติ, สาวเสสานวเสสํ อาปตฺติํ ชานาติ, ทุฏฺฐุลฺลาทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ชานาติ, ปญฺจวโสฺส วา โหติ อติเรกปญฺจวโสฺส วา—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ยาวชีวํ อนิสฺสิเตน วตฺถพฺพํ”.

418.
1943

“กติหิ นุ โข, ภนฺเต, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺฐาเปตพฺโพ”ติ?

1944

“ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺฐาเปตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? น ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสิํ วา สทฺธิวิหาริํ วา คิลานํ อุปฏฺฐาตุํ วา อุปฏฺฐาเปตุํ วา, อนภิรตํ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา, อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ, อภิธมฺเม วิเนตุํ, อภิวินเย วิเนตุํ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺฐาเปตพฺโพ. ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺฐาเปตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสิํ วา สทฺธิวิหาริํ วา คิลานํ อุปฏฺฐาตุํ วา อุปฏฺฐาเปตุํ วา, อนภิรตํ วูปกาเสตุํ วา วูปกาสาเปตุํ วา, อุปฺปนฺนํ กุกฺกุจฺจํ ธมฺมโต วิโนเทตุํ, อภิธมฺเม วิเนตุํ, อภิวินเย วิเนตุํ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺฐาเปตพฺโพ.

1945

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺฐาเปตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? น ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสิํ วา สทฺธิวิหาริํ วา อภิสมาจาริกาย สิกฺขาย สิกฺขาเปตุํ, อาทิพฺรหฺมจาริยกาย สิกฺขาย วิเนตุํ, อธิสีเล วิเนตุํ, อธิจิตฺเต วิเนตุํ, อธิปญฺญาย วิเนตุํ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น อุปสมฺปาเทตพฺพํ, น นิสฺสโย ทาตพฺโพ, น สามเณโร อุปฏฺฐาเปตพฺโพ. ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺฐาเปตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? ปฏิพโล โหติ อนฺเตวาสิํ วา สทฺธิวิหาริํ วา อภิสมาจาริกาย สิกฺขาย สิกฺขาเปตุํ, อาทิพฺรหฺมจาริยกาย สิกฺขาย วิเนตุํ, อธิสีเล วิเนตุํ, อธิจิตฺเต วิเนตุํ, อธิปญฺญาย วิเนตุํ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา อุปสมฺปาเทตพฺพํ, นิสฺสโย ทาตพฺโพ, สามเณโร อุปฏฺฐาเปตพฺโพ”ติ.

419.
1946

“กติหิ นุ โข, ภนฺเต, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพนฺ”ติ?

1947

ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อลชฺชี จ โหติ, พาโล จ, อปกตตฺโต จ, มิจฺฉาทิฏฺฐิโก จ โหติ, อาชีววิปนฺโน จ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. (1)

1948

“อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อธิสีเล สีลวิปนฺโน โหติ, อชฺฌาจาเร อาจารวิปนฺโน โหติ, อติทิฏฺฐิยา ทิฏฺฐิวิปนฺโน โหติ, มิจฺฉาทิฏฺฐิโก จ โหติ, อาชีววิปนฺโน จ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. (2)

1949

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? กายิเกน ทเวน สมนฺนาคโต โหติ, วาจสิเกน ทเวน สมนฺนาคโต โหติ, กายิกวาจสิเกน ทเวน สมนฺนาคโต โหติ, มิจฺฉาทิฏฺฐิโก จ โหติ, อาชีววิปนฺโน จ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. (3)

1950

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? กายิเกน อนาจาเรน สมนฺนาคโต โหติ, วาจสิเกน อนาจาเรน สมนฺนาคโต โหติ, กายิกวาจสิเกน อนาจาเรน สมนฺนาคโต โหติ, มิจฺฉาทิฏฺฐิโก จ โหติ, อาชีววิปนฺโน จ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. (4)

1951

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? กายิเกน อุปฆาติเกน สมนฺนาคโต โหติ, วาจสิเกน อุปฆาติเกน สมนฺนาคโต โหติ, กายิกวาจสิเกน อุปฆาติเกน สมนฺนาคโต โหติ, มิจฺฉาทิฏฺฐิโก จ โหติ, อาชีววิปนฺโน จ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. (5)

1952

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? กายิเกน มิจฺฉาชีเวน สมนฺนาคโต โหติ, วาจสิเกน มิจฺฉาชีเวน สมนฺนาคโต โหติ, กายิกวาจสิเกน มิจฺฉาชีเวน สมนฺนาคโต โหติ, มิจฺฉาทิฏฺฐิโก จ โหติ, อาชีววิปนฺโน จ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. (6)

1953

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อาปตฺติํ อาปนฺโน กมฺมกโต อุปสมฺปาเทติ, นิสฺสยํ เทติ, สามเณรํ อุปฏฺฐาเปติ, ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติํ สาทิยติ, สมฺมโตปิ ภิกฺขุนิโย โอวทติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. (7)

1954

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? ยาย อาปตฺติยา สํเฆน กมฺมํ กตํ โหติ ตํ อาปตฺติํ อาปชฺชติ, อญฺญํ วา ตาทิสิกํ, ตโต วา ปาปิฏฺฐตรํ, กมฺมํ ครหติ, กมฺมิเก ครหติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. (8)

1955

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สํฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ, มิจฺฉาทิฏฺฐิโก จ โหติ, อาชีววิปนฺโน จ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ กาตพฺพนฺ”ติ. (9)

1956

อนิสฺสิตวคฺโค นิฏฺฐิโต ปฐโม.

1957

ตสฺสุทฺทานํ

1958

อุโปสถํ ปวารณํ,_
อาปตฺติ จ คิลานกํ;
อภิสมาจารลชฺชี จ,
อธิสีเล ทเวน จ.

1959

อนาจารํ อุปฆาติ,
มิจฺฉา อาปตฺติเมว จ;
ยายาปตฺติยา พุทฺธสฺส,
ปฐโม วคฺคสงฺคโหติ.