Skip to content

17.2 นปฺปฏิปฺปสฺสมฺภนวคฺค

420.
1960

“กติหิ นุ โข, ภนฺเต, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพนฺ”ติ?

1961

“ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อาปตฺติํ อาปนฺโน กมฺมกโต อุปสมฺปาเทติ, นิสฺสยํ เทติ, สามเณรํ อุปฏฺฐาเปติ, ภิกฺขุโนวาทกสมฺมุติํ สาทิยติ, สมฺมโตปิ ภิกฺขุนิโย โอวทติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ. (1)

1962

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? ยาย อาปตฺติยา สํเฆน กมฺมํ กตํ โหติ ตํ อาปตฺติํ อาปชฺชติ, อญฺญํ วา ตาทิสิกํ, ตโต วา ปาปิฏฺฐตรํ, กมฺมํ ครหติ, กมฺมิเก ครหติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ. (2)

1963

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สํฆสฺส อวณฺณํ ภาสติ, มิจฺฉาทิฏฺฐิโก จ โหติ, อาชีววิปนฺโน จ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ. (3)

1964

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อลชฺชี จ โหติ, พาโล จ, อปกตตฺโต จ, โอมทฺทการโก จ โหติ, วตฺเตสุ สิกฺขาย จ น ปริปูรการี—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน กมฺมํ นปฺปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพนฺ”ติ. (4)

421.
1965

“สงฺคามาวจเรน, ภนฺเต, ภิกฺขุนา สํฆํ อุปสงฺกมนฺเตน กติ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺฐาเปตฺวา สํโฆ อุปสงฺกมิตพฺโพ”ติ?

1966

“สงฺคามาวจเรน, อุปาลิ, ภิกฺขุนา สํฆํ อุปสงฺกมนฺเตน ปญฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺฐาเปตฺวา สํโฆ อุปสงฺกมิตพฺโพ. กตเม ปญฺจ? สงฺคามาวจเรน, อุปาลิ, ภิกฺขุนา สํฆํ อุปสงฺกมนฺเตน นีจจิตฺเตน สํโฆ อุปสงฺกมิตพฺโพ, รโชหรณสเมน จิตฺเตน, อาสนกุสเลน ภวิตพฺพํ นิสฺสชฺชกุสเลน, เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺชนฺเตน, นเว ภิกฺขู อาสเนน อปฺปฏิพาหนฺเตน ยถาปติรูเป อาสเน นิสีทิตพฺพํ, อนานากถิเกน ภวิตพฺพํ อติรจฺฉานกถิเกน, สามํ วา ธมฺโม ภาสิตพฺโพ, ปโร วา อชฺเฌสิตพฺโพ, อริโย วา ตุณฺหีภาโว นาติมญฺญิตพฺโพ, สเจ, อุปาลิ, สํโฆ สมคฺคกรณียานิ กมฺมานิ กโรติ; ตตฺร เจ, อุปาลิ, ภิกฺขุโน นกฺขมติ, อปิ ทิฏฺฐาวิกมฺมํ กตฺวา ญาเปตพฺพา สามคฺคี. ตํ กิสฺสเหตุ? มาหํ สํเฆน นานตฺโต อสฺสนฺติ. สงฺคามาวจเรนุปาลิ, ภิกฺขุนา สํฆํ อุปสงฺกมนฺเตน อิเม ปญฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ อุปฏฺฐาเปตฺวา สํโฆ อุปสงฺกมิตพฺโพ”ติ.

422.
1967

“กติหิ นุ โข, ภนฺเต, องฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สํเฆ โวหรนฺโต พหุชนอกนฺโต จ โหติ พหุชนอมนาโป จ พหุชนอรุจิโต จา”ติ?

1968

“ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สํเฆ โวหรนฺโต พหุชนอกนฺโต จ โหติ พหุชนอมนาโป จ พหุชนรุจิโต จ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อุสฺสิตมนฺตี จ โหติ, นิสฺสิตชปฺปี จ, น จ ภาสานุสนฺธิกุสโล โหติ, น ยถาธมฺเม ยถาวินเย ยถาปตฺติยา โจเทตา โหติ, น ยถาธมฺเม ยถาวินเย ยถาปตฺติยา กาเรตา โหติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สํเฆ โวหรนฺโต พหุชนอกนฺโต จ โหติ พหุชนอมนาโป จ พหุชนอรุจิโต จ. ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สํเฆ โวหรนฺโต พหุชนกนฺโต จ โหติ พหุชนมนาโป จ พหุชนรุจิโต จ. กตเมหิ ปญฺจหิ? น อุสฺสิตมนฺตี จ โหติ, น นิสฺสิตชปฺปี จ, ภาสานุสนฺธิกุสโล จ โหติ, ยถาธมฺเม ยถาวินเย ยถาปตฺติยา โจเทตา โหติ, ยถาธมฺเม ยถาวินเย ยถาปตฺติยา กาเรตา โหติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สํเฆ โวหรนฺโต พหุชนกนฺโต จ โหติ พหุชนมนาโป จ พหุชนรุจิโต จ. (1)

1969

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สํเฆ โวหรนฺโต พหุชนอกนฺโต จ โหติ พหุชนอมนาโป จ พหุชนอรุจิโต จ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อุสฺสาเทตา จ โหติ, อปสาเทตา จ, อธมฺมํ คณฺหาติ, ธมฺมํ ปฏิพาหติ, สมฺผญฺจ พหุํ ภาสติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สํเฆ โวหรนฺโต พหุชนอกนฺโต จ โหติ พหุชนอมนาโป จ พหุชนอรุจิโต จ. ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สํเฆ โวหรนฺโต พหุชนกนฺโต จ โหติ พหุชนมนาโป จ พหุชนรุจิโต จ. กตเมหิ ปญฺจหิ? น อุสฺสาเทตา จ โหติ, น อปสาเทตา จ, ธมฺมํ คณฺหาติ, อธมฺมํ ปฏิพาหติ, สมฺผญฺจ น พหุํ ภาสติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สํเฆ โวหรนฺโต พหุชนกนฺโต จ โหติ พหุชนมนาโป จ พหุชนรุจิโต จ. (2)

1970

อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สํเฆ โวหรนฺโต พหุชนอกนฺโต จ โหติ พหุชนอมนาโป จ พหุชนอรุจิโต จ. กตเมหิ ปญฺจหิ? ปสยฺหปวตฺตา โหติ, อโนกาสกมฺมํ กาเรตฺวา ปวตฺตา โหติ, น ยถาธมฺเม ยถาวินเย ยถาปตฺติยา โจเทตา โหติ, น ยถาธมฺเม ยถาวินเย ยถาปตฺติยา กาเรตา โหติ, น ยถาทิฏฺฐิยา พฺยากตา โหติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สํเฆ โวหรนฺโต พหุชนอกนฺโต จ โหติ พหุชนอมนาโป จ พหุชนอรุจิโต จ. ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สํเฆ โวหรนฺโต พหุชนกนฺโต จ โหติ พหุชนมนาโป จ พหุชนรุจิโต จ. กตเมหิ ปญฺจหิ? น ปสยฺหปวตฺตา โหติ, โอกาสกมฺมํ กาเรตฺวา ปวตฺตา โหติ, ยถาธมฺเม ยถาวินเย ยถาปตฺติยา โจเทตา โหติ, ยถาธมฺเม ยถาวินเย ยถาปตฺติยา กาเรตา โหติ, ยถาทิฏฺฐิยา พฺยากตา โหติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ สํเฆ โวหรนฺโต พหุชนกนฺโต จ โหติ พหุชนมนาโป จ พหุชนรุจิโต จา”ติ. (3)

423.
1971

“กติ นุ โข, ภนฺเต, อานิสํสา วินยปริยตฺติยา”ติ?

1972

“ปญฺจิเม, อุปาลิ, อานิสํสา วินยปริยตฺติยา. กตเม ปญฺจ? อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต, กุกฺกุจฺจปกตานํ ปฏิสรณํ โหติ, วิสารโท สํฆมชฺเฌ โวหรติ, ปจฺจตฺถิเก สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหาติ, สทฺธมฺมฏฺฐิติยา ปฏิปนฺโน โหติ—  อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจานิสํสา วินยปริยตฺติยา”.

1973

นปฺปฏิปฺปสฺสมฺภนวคฺโค นิฏฺฐิโต ทุติโย.

1974

ตสฺสุทฺทานํ

1975

อาปนฺโน ยายวณฺณญฺจ,
อลชฺชี สงฺคาเมน จ;
อุสฺสิตา อุสฺสาเทตา จ,_
ปสยฺห ปริยตฺติยาติ.

1976

ปฐมยมกปญฺญตฺติ.