17.8 ภิกฺขุโนวาทวคฺค
“กติหิ นุ โข, ภนฺเต, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนิสํเฆเนว กมฺมํ กาตพฺพนฺ”ติ?
“ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนิสํเฆเนว กมฺมํ กาตพฺพํ, อวนฺทิโย โส ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสํเฆน. กตเมหิ ปญฺจหิ? วิวริตฺวา กายํ ภิกฺขุนีนํ ทเสฺสติ, อูรุํ ทเสฺสติ, องฺคชาตํ ทเสฺสติ, อุโภ อํสกูเฏ ทเสฺสติ, โอภาสติ, คิหี สมฺปโยเชติ— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนิสํเฆเนว กมฺมํ กาตพฺพํ. อวนฺทิโย โส ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสํเฆน.
อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนิสํเฆเนว กมฺมํ กาตพฺพํ, อวนฺทิโย โส ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสํเฆน. กตเมหิ ปญฺจหิ? ภิกฺขุนีนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขุนีนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขุนีนํ อวาสาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขุนิโย อกฺโกสติ ปริภาสติ, ภิกฺขู ภิกฺขุนีหิ เภเทติ— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนิสํเฆเนว กมฺมํ กาตพฺพํ, อวนฺทิโย โส ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสํเฆน.
อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนิสํเฆเนว กมฺมํ กาตพฺพํ, อวนฺทิโย โส ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสํเฆน. กตเมหิ ปญฺจหิ? ภิกฺขุนีนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขุนีนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขุนีนํ อวาสาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขุนิโย อกฺโกสติ ปริภาสติ, ภิกฺขู ภิกฺขุนีหิ สมฺปโยเชติ— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนิสํเฆเนว กมฺมํ กาตพฺพํ, อวนฺทิโย โส ภิกฺขุ ภิกฺขุนิสํเฆนา”ติ.
“กติหิ นุ โข, ภนฺเต, องฺเคหิ สมนฺนาคตาย ภิกฺขุนิยา กมฺมํ กาตพฺพนฺ”ติ?
“ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคตาย ภิกฺขุนิยา กมฺมํ กาตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? วิวริตฺวา กายํ ภิกฺขูนํ ทเสฺสติ, อูรุํ ทเสฺสติ, องฺคชาตํ ทเสฺสติ, อุโภ อํสกูเฏ ทเสฺสติ, โอภาสติ, คิหี สมฺปโยเชติ— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตาย ภิกฺขุนิยา กมฺมํ กาตพฺพํ.
อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตาย ภิกฺขุนิยา กมฺมํ กาตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อวาสาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ, ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูหิ เภเทติ— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตาย ภิกฺขุนิยา กมฺมํ กาตพฺพํ.
อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตาย ภิกฺขุนิยา กมฺมํ กาตพฺพํ. กตเมหิ ปญฺจหิ? ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อวาสาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขู อกฺโกสติ ปริภาสติ, ภิกฺขุนิโย ภิกฺขูหิ สมฺปโยเชติ— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตาย ภิกฺขุนิยา กมฺมํ กาตพฺพนฺ”ติ.
“กติหิ นุ โข, ภนฺเต, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น ฐเปตพฺโพ”ติ?
“ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น ฐเปตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อลชฺชี จ โหติ, พาโล จ, อปกตตฺโต จ, จาวนาธิปฺปาโย วตฺตา โหติ, โน วุฏฺฐานาธิปฺปาโย— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น ฐเปตพฺโพ.
อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น ฐเปตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อปริสุทฺธกายสมาจาโร โหติ, อปริสุทฺธวจีสมาจาโร โหติ, อปริสุทฺธาชีโว โหติ, พาโล โหติ, อพฺยตฺโต, น ปฏิพโล อนุยุญฺชิยมาโน อนุโยคํ ทาตุํ— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น ฐเปตพฺโพ.
อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น ฐเปตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? กายิเกน อนาจาเรน สมนฺนาคโต โหติ, วาจสิเกน อนาจาเรน สมนฺนาคโต โหติ, กายิกวาจสิเกน อนาจาเรน สมนฺนาคโต โหติ, ภิกฺขุนีนํ อกฺโกสกปริภาสโก โหติ, ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ สํสฏฺโฐ วิหรติ อนนุโลมิเกน สํสคฺเคน— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น ฐเปตพฺโพ.
อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น ฐเปตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อลชฺชี จ โหติ, พาโล จ, อปกตตฺโต จ, ภณฺฑนการโก จ โหติ กลหการโก, สิกฺขาย จ น ปริปูริการี— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น ฐเปตพฺโพ”ติ.
“กติหิ นุ โข, ภนฺเต, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น คเหตพฺโพ”ติ?
“ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น คเหตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? กายิเกน อนาจาเรน สมนฺนาคโต โหติ, วาจสิเกน อนาจาเรน สมนฺนาคโต โหติ, กายิกวาจสิเกน อนาจาเรน สมนฺนาคโต โหติ, ภิกฺขุนีนํ อกฺโกสกปริภาสโก โหติ, ภิกฺขุนีหิ สทฺธิํ สํสฏฺโฐ วิหรติ อนนุโลมิเกน สํสคฺเคน— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น คเหตพฺโพ.
อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น คเหตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อลชฺชี จ โหติ, พาโล จ, อปกตตฺโต จ, คมิโก วา โหติ, คิลาโน วา— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา ภิกฺขุนีนํ โอวาโท น คเหตพฺโพ”ติ.
“กติหิ นุ โข, ภนฺเต, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ น สากจฺฉิตพฺโพ”ติ?
“ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ น สากจฺฉิตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? น อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน ปญฺญากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, น อเสกฺเขน วิมุตฺติญาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ น สากจฺฉิตพฺโพ. ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ สากจฺฉิตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อเสกฺเขน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน สมาธิกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน ปญฺญากฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน วิมุตฺติกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ, อเสกฺเขน วิมุตฺติญาณทสฺสนกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต โหติ— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ สากจฺฉิตพฺโพ.
อปเรหิปิ, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ น สากจฺฉิตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? น อตฺถปฏิสมฺภิทาปตฺโต โหติ, น ธมฺมปฏิสมฺภิทาปตฺโต โหติ, น นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาปตฺโต โหติ, น ปฏิภานปฏิสมฺภิทาปตฺโต โหติ, ยถาวิมุตฺตํ จิตฺตํ น ปจฺจเวกฺขิตา— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ น สากจฺฉิตพฺโพ. ปญฺจหุปาลิ, องฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ สากจฺฉิตพฺโพ. กตเมหิ ปญฺจหิ? อตฺถปฏิสมฺภิทาปตฺโต โหติ, ธมฺมปฏิสมฺภิทาปตฺโต โหติ, นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาปตฺโต โหติ, ปฏิภานปฏิสมฺภิทาปตฺโต โหติ, ยถาวิมุตฺตํ จิตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตา— อิเมหิ โข, อุปาลิ, ปญฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ สากจฺฉิตพฺโพ”ติ.
ภิกฺขุโนวาทวคฺโค นิฏฺฐิโต อฏฺฐโม.
ตสฺสุทฺทานํ
ภิกฺขุนีเหว กาตพฺพํ,
อปเรหิ ตถา ทุเว;
ภิกฺขุนีนํ ตโย กมฺมา,
น ฐเปตพฺพา ทฺเว ทุกา;
น คเหตพฺพา ทฺเว วุตฺตา,
สากจฺฉาสุ จ ทฺเว ทุกาติ.