Skip to content

10.2 ทีฆาวุวตฺถุ

458.
1960

อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ—  “ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต นาม กาสิราชา อโหสิ อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค มหพฺพโล มหาวาหโน มหาวิชิโต ปริปุณฺณโกสโกฏฺฐาคาโร. ทีฆีติ นาม โกสลราชา อโหสิ ทลิทฺโท อปฺปธโน อปฺปโภโค อปฺปพโล อปฺปวาหโน อปฺปวิชิโต อปริปุณฺณโกสโกฏฺฐาคาโร. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา ทีฆีติํ โกสลราชานํ อพฺภุยฺยาสิ. อสฺโสสิ โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติ โกสลราชา—  ‘พฺรหฺมทตฺโต กิร กาสิราชา จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนยฺหิตฺวา มมํ อพฺภุยฺยาโต’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ เอตทโหสิ—  ‘พฺรหฺมทตฺโต โข กาสิราชา อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค มหพฺพโล มหาวาหโน มหาวิชิโต ปริปุณฺณโกสโกฏฺฐาคาโร, อหํ ปนมฺหิ ทลิทฺโท อปฺปธโน อปฺปโภโค อปฺปพโล อปฺปวาหโน อปฺปวิชิโต อปริปุณฺณโกสโกฏฺฐาคาโร, นาหํ ปฏิพโล พฺรหฺมทตฺเตน กาสิรญฺญา เอกสงฺฆาตมฺปิ สหิตุํ. ยนฺนูนาหํ ปฏิกจฺเจว นครมฺหา นิปฺปเตยฺยนฺ’ติ.

1961

อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติ โกสลราชา มเหสิํ อาทาย ปฏิกจฺเจว นครมฺหา นิปฺปติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ พลญฺจ วาหนญฺจ ชนปทญฺจ โกสญฺจ โกฏฺฐาคารญฺจ อภิวิชิย อชฺฌาวสติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติ โกสลราชา สปชาปติโก เยน พาราณสี เตน ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน เยน พาราณสี ตทวสริ. ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, ทีฆีติ โกสลราชา สปชาปติโก พาราณสิยํ อญฺญตรสฺมิํ ปจฺจนฺติเม โอกาเส กุมฺภการนิเวสเน อญฺญาตกเวเสน ปริพฺพาชกจฺฉนฺเนน ปฏิวสติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ มเหสี นจิรเสฺสว คพฺภินี อโหสิ. ตสฺสา เอวรูโป โทหโฬ อุปฺปนฺโน โหติ—  อิจฺฉติ สูริยสฺส อุคฺคมนกาเล จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนทฺธํ วมฺมิกํ สุภูเม ฐิตํ ปสฺสิตุํ, ขคฺคานญฺจ โธวนํ ปาตุํ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ มเหสี ทีฆีติํ โกสลราชานํ เอตทโวจ—  ‘คพฺภินีมฺหิ, เทว. ตสฺสา เม เอวรูโป โทหโฬ อุปฺปนฺโน—  อิจฺฉามิ สูริยสฺส อุคฺคมนกาเล จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนทฺธํ วมฺมิกํ สุภูเม ฐิตํ ปสฺสิตุํ, ขคฺคานญฺจ โธวนํ ปาตุนฺ’ติ. ‘กุโต, เทวิ, อมฺหากํ ทุคฺคตานํ จตุรงฺคินี เสนา สนฺนทฺธา วมฺมิกา สุภูเม ฐิตา, ขคฺคานญฺจ โธวนํ ปาตุนฺ’ติ ‘สจาหํ, เทว, น ลภิสฺสามิ, มริสฺสามี’ติ.

459.
1962

เตน โข ปน สมเยน, พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ สหาโย โหติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติ โกสลราชา เยน พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปุโรหิตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ—  ‘สขี เต, สมฺม, คพฺภินี. ตสฺสา เอวรูโป โทหโฬ อุปฺปนฺโน—  อิจฺฉติ สูริยสฺส อุคฺคมนกาเล จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนทฺธํ วมฺมิกํ สุภูเม ฐิตํ ปสฺสิตุํ, ขคฺคานญฺจ โธวนํ ปาตุนฺ’ติ. ‘เตน หิ, เทว, มยมฺปิ เทวิํ ปสฺสามา’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ มเหสี เยน พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ มเหสิํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺติํ, ทิสฺวาน อุฏฺฐายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา เยน ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ มเหสี เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ติกฺขตฺตุํ อุทานํ อุทาเนสิ—  ‘โกสลราชา วต โภ กุจฺฉิคโต, โกสลราชา วต โภ กุจฺฉิคโตติ. อตฺตมนา, เทวิ, โหหิ. ลจฺฉสิ สูริยสฺส อุคฺคมนกาเล จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนทฺธํ วมฺมิกํ สุภูเม ฐิตํ ปสฺสิตุํ, ขคฺคานญฺจ โธวนํ ปาตุนฺ’ติ.

1963

อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ เยน พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา พฺรหฺมทตฺตํ กาสิราชานํ เอตทโวจ—  ‘ตถา, เทว, นิมิตฺตานิ ทิสฺสนฺติ, เสฺว สูริยุคฺคมนกาเล จตุรงฺคินี เสนา สนฺนทฺธา วมฺมิกา สุภูเม ติฏฺฐตุ, ขคฺคา จ โธวิยนฺตู’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา มนุเสฺส อาณาเปสิ—  ‘ยถา, ภเณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ อาห ตถา กโรถา’ติ. อลภิ โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ มเหสี สูริยสฺส อุคฺคมนกาเล จตุรงฺคินิํ เสนํ สนฺนทฺธํ วมฺมิกํ สุภูเม ฐิตํ ปสฺสิตุํ, ขคฺคานญฺจ โธวนํ ปาตุํ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ มเหสี ตสฺส คพฺภสฺส ปริปากมนฺวาย ปุตฺตํ วิชายิ. ตสฺส ทีฆาวูติ นามํ อกํสุ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร นจิรเสฺสว วิญฺญุตํ ปาปุณิ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ เอตทโหสิ—  ‘อยํ โข พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา พหุโน อมฺหากํ อนตฺถสฺส การโก, อิมินา อมฺหากํ พลญฺจ วาหนญฺจ ชนปโท จ โกโส จ โกฏฺฐาคารญฺจ อจฺฉินฺนํ, สจายํ อเมฺห ชานิสฺสติ, สพฺเพว ตโย ฆาตาเปสฺสติ, ยนฺนูนาหํ ทีฆาวุํ กุมารํ พหินคเร วาเสยฺยนฺ’ติ. อถ โข, ภิกฺขโว, ทีฆีติ โกสลราชา ทีฆาวุํ กุมารํ พหินคเร วาเสสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร พหินคเร ปฏิวสนฺโต นจิรเสฺสว สพฺพสิปฺปานิ สิกฺขิ.

460.
1964

เตน โข ปน สมเยน ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ กปฺปโก พฺรหฺมทตฺเต กาสิรญฺเญ ปฏิวสติ. อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ กปฺปโก ทีฆีติํ โกสลราชานํ สปชาปติกํ พาราณสิยํ อญฺญตรสฺมิํ ปจฺจนฺติเม โอกาเส กุมฺภการนิเวสเน อญฺญาตกเวเสน ปริพฺพาชกจฺฉนฺเนน ปฏิวสนฺตํ, ทิสฺวาน เยน พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา พฺรหฺมทตฺตํ กาสิราชานํ เอตทโวจ—  ‘ทีฆีติ, เทว, โกสลราชา สปชาปติโก พาราณสิยํ อญฺญตรสฺมิํ ปจฺจนฺติเม โอกาเส กุมฺภการนิเวสเน อญฺญาตกเวเสน ปริพฺพาชกจฺฉนฺเนน ปฏิวสตี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา มนุเสฺส อาณาเปสิ—  ‘เตน หิ, ภเณ, ทีฆีติํ โกสลราชานํ สปชาปติกํ อาเนถา’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, เต มนุสฺสา พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปฏิสฺสุตฺวา ทีฆีติํ โกสลราชานํ สปชาปติกํ อาเนสุํ. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา มนุเสฺส อาณาเปสิ—  ‘เตน หิ, ภเณ, ทีฆีติํ โกสลราชานํ สปชาปติกํ ทฬฺหาย รชฺชุยา ปจฺฉาพาหํ คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา ขรสฺสเรน ปณเวน รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ ปริเนตฺวา ทกฺขิเณน ทฺวาเรน นิกฺขาเมตฺวา ทกฺขิณโต นครสฺส จตุธา ฉินฺทิตฺวา จตุทฺทิสา พิลานิ นิกฺขิปถา’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, เต มนุสฺสา พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปฏิสฺสุตฺวา ทีฆีติํ โกสลราชานํ สปชาปติกํ ทฬฺหาย รชฺชุยา ปจฺฉาพาหํ คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา ขรสฺสเรน ปณเวน รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ ปริเนนฺติ.

1965

อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุสฺส กุมารสฺส เอตทโหสิ—  ‘จิรํทิฏฺฐา โข เม มาตาปิตโร. ยนฺนูนาหํ มาตาปิตโร ปเสฺสยฺยนฺ’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร พาราณสิํ ปวิสิตฺวา อทฺทส มาตาปิตโร ทฬฺหาย รชฺชุยา ปจฺฉาพาหํ คาฬฺหพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ขุรมุณฺฑํ กริตฺวา ขรสฺสเรน ปณเวน รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ ปริเนนฺเต, ทิสฺวาน เยน มาตาปิตโร เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติ โกสลราชา ทีฆาวุํ กุมารํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ; ทิสฺวาน ทีฆาวุํ กุมารํ เอตทโวจ—  ‘มา โข ตฺวํ, ตาต ทีฆาวุ, ทีฆํ ปสฺส, มา รสฺสํ. น หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวเรน เวรา สมฺมนฺติ; อเวเรน หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวรา สมฺมนฺตี’ติ. เอวํ วุตฺเต, ภิกฺขเว, เต มนุสฺสา ทีฆีติํ โกสลราชานํ เอตทโวจุํ—  ‘อุมฺมตฺตโก อยํ ทีฆีติ โกสลราชา วิปฺปลปติ. โก อิมสฺส ทีฆาวุ? กํ อยํ เอวมาห—  มา โข ตฺวํ, ตาต ทีฆาวุ, ทีฆํ ปสฺส, มา รสฺสํ. น หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวเรน เวรา สมฺมนฺติ; อเวเรน หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวรา สมฺมนฺตี’ติ. ‘นาหํ, ภเณ, อุมฺมตฺตโก วิปฺปลปามิ, อปิ จ โย วิญฺญู โส วิภาเวสฺสตี’ติ. ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว …เป…  ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ทีฆีติ โกสลราชา ทีฆาวุํ กุมารํ เอตทโวจ—  ‘มา โข ตฺวํ, ตาต ทีฆาวุ, ทีฆํ ปสฺส, มา รสฺสํ. น หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวเรน เวรา สมฺมนฺติ; อเวเรน หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวรา สมฺมนฺตี’ติ. ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, เต มนุสฺสา ทีฆีติํ โกสลราชานํ เอตทโวจุํ—  ‘อุมฺมตฺตโก อยํ ทีฆีติ โกสลราชา วิปฺปลปติ. โก อิมสฺส ทีฆาวุ? กํ อยํ เอวมาห—  “มา โข ตฺวํ, ตาต ทีฆาวุ, ทีฆํ ปสฺส, มา รสฺสํ. น หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวเรน เวรา สมฺมนฺติ; อเวเรน หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวรา สมฺมนฺตี”’ติ. ‘นาหํ, ภเณ, อุมฺมตฺตโก วิปฺปลปามิ, อปิ จ โย วิญฺญู โส วิภาเวสฺสตี’ติ.

1966

อถ โข, ภิกฺขเว, เต มนุสฺสา ทีฆีติํ โกสลราชานํ สปชาปติกํ รถิกาย รถิกํ สิงฺฆาฏเกน สิงฺฆาฏกํ ปริเนตฺวา ทกฺขิเณน ทฺวาเรน นิกฺขาเมตฺวา ทกฺขิณโต นครสฺส จตุธา ฉินฺทิตฺวา จตุทฺทิสา พิลานิ นิกฺขิปิตฺวา คุมฺพํ ฐเปตฺวา ปกฺกมิํสุ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร พาราณสิํ ปวิสิตฺวา สุรํ นีหริตฺวา คุมฺพิเย ปาเยสิ. ยทา เต มตฺตา อเหสุํ ปติตา, อถ กฏฺฐานิ สงฺกฑฺฒิตฺวา จิตกํ กริตฺวา มาตาปิตูนํ สรีรํ จิตกํ อาโรเปตฺวา อคฺคิํ ทตฺวา ปญฺชลิโก ติกฺขตฺตุํ จิตกํ ปทกฺขิณํ อกาสิ.

461.
1967

เตน โข ปน สมเยน พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา อุปริปาสาทวรคโต โหติ. อทฺทสา โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา ทีฆาวุํ กุมารํ ปญฺชลิกํ ติกฺขตฺตุํ จิตกํ ปทกฺขิณํ กโรนฺตํ, ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ—  ‘นิสฺสํสยํ โข โส มนุโสฺส ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ ญาติ วา สาโลหิโต วา, อโห เม อนตฺถโต, น หิ นาม เม โกจิ อาโรเจสฺสตี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร อรญฺญํ คนฺตฺวา ยาวทตฺถํ กนฺทิตฺวา โรทิตฺวา ขปฺปํ ปุญฺฉิตฺวา พาราณสิํ ปวิสิตฺวา อนฺเตปุรสฺส สามนฺตา หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา หตฺถาจริยํ เอตทโวจ—  ‘อิจฺฉามหํ, อาจริย, สิปฺปํ สิกฺขิตุนฺ’ติ. ‘เตน หิ, ภเณ มาณวก, สิกฺขสฺสู’ติ.

1968

อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย หตฺถิสาลายํ มญฺชุนา สเรน คายิ, วีณญฺจ วาเทสิ. อสฺโสสิ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย หตฺถิสาลายํ มญฺชุนา สเรน คีตํ วีณญฺจ วาทิตํ, สุตฺวาน มนุเสฺส ปุจฺฉิ—  ‘โก, ภเณ, รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย หตฺถิสาลายํ มญฺชุนา สเรน คายิ, วีณญฺจ วาเทสี’ติ? ‘อมุกสฺส, เทว, หตฺถาจริยสฺส อนฺเตวาสี มาณวโก รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย หตฺถิสาลายํ มญฺชุนา สเรน คายิ, วีณญฺจ วาเทสี’ติ. ‘เตน หิ, ภเณ, ตํ มาณวกํ อาเนถา’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, เต มนุสฺสา พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปฏิสฺสุตฺวา ทีฆาวุํ กุมารํ อาเนสุํ. ‘ตฺวํ, ภเณ มาณวก, รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย หตฺถิสาลายํ มญฺชุนา สเรน คายิ, วีณญฺจ วาเทสี’ติ? ‘เอวํ, เทวา’ติ. ‘เตน หิ ตฺวํ, ภเณ มาณวก, คายสฺสุ, วีณญฺจ วาเทหี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปฏิสฺสุตฺวา อาราธาเปกฺโข มญฺชุนา สเรน คายิ, วีณญฺจ วาเทสิ. ‘ตฺวํ, ภเณ มาณวก, มํ อุปฏฺฐหา’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปจฺจโสฺสสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปุพฺพุฏฺฐายี อโหสิ ปจฺฉานิปาตี กิํการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา ทีฆาวุํ กุมารํ นจิรเสฺสว อพฺภนฺตริเม วิสฺสาสิกฏฺฐาเน ฐเปสิ.

462.
1969

อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา ทีฆาวุํ กุมารํ เอตทโวจ—  ‘เตน หิ, ภเณ มาณวก, รถํ โยเชหิ, มิควํ คมิสฺสามา’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปฏิสฺสุตฺวา รถํ โยเชตฺวา พฺรหฺมทตฺตํ กาสิราชานํ เอตทโวจ—  ‘ยุตฺโต โข เต, เทว, รโถ, ยสฺสทานิ กาลํ มญฺญสี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา รถํ อภิรุหิ. ทีฆาวุ กุมาโร รถํ เปเสสิ. ตถา ตถา รถํ เปเสสิ ยถา ยถา อญฺเญเนว เสนา อคมาสิ อญฺเญเนว รโถ.

1970

อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา ทูรํ คนฺตฺวา ทีฆาวุํ กุมารํ เอตทโวจ—  ‘เตน หิ, ภเณ มาณวก, รถํ มุญฺจสฺสุ, กิลนฺโตมฺหิ, นิปชฺชิสฺสามี’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปฏิสฺสุตฺวา รถํ มุญฺจิตฺวา ปถวิยํ ปลฺลงฺเกน นิสีทิ. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา ทีฆาวุสฺส กุมารสฺส อุจฺฉงฺเค สีสํ กตฺวา เสยฺยํ กปฺเปสิ. ตสฺส กิลนฺตสฺส มุหุตฺตเกเนว นิทฺทา โอกฺกมิ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุสฺส กุมารสฺส เอตทโหสิ—  ‘อยํ โข พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา พหุโน อมฺหากํ อนตฺถสฺส การโก. อิมินา อมฺหากํ พลญฺจ วาหนญฺจ ชนปโท จ โกโส จ โกฏฺฐาคารญฺจ อจฺฉินฺนํ. อิมินา จ เม มาตาปิตโร หตา. อยํ ขฺวสฺส กาโล โยหํ เวรํ อปฺเปยฺยนฺ’ติ โกสิยา ขคฺคํ นิพฺพาหิ.

1971

อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุสฺส กุมารสฺส เอตทโหสิ—  ‘ปิตา โข มํ มรณกาเล อวจ “มา โข ตฺวํ, ตาต ทีฆาวุ, ทีฆํ ปสฺส, มา รสฺสํ. น หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวเรน เวรา สมฺมนฺติ; อเวเรน หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวรา สมฺมนฺตี”ติ. น โข เมตํ ปติรูปํ, ยฺวาหํ ปิตุวจนํ อติกฺกเมยฺยนฺ’ติ โกสิยา ขคฺคํ ปเวเสสิ.

1972

ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุสฺส กุมารสฺส เอตทโหสิ—  ‘อยํ โข พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา พหุโน อมฺหากํ อนตฺถสฺส การโก, อิมินา อมฺหากํ พลญฺจ วาหนญฺจ ชนปโท จ โกโส จ โกฏฺฐาคารญฺจ อจฺฉินฺนํ, อิมินา จ เม มาตาปิตโร หตา, อยํ ขฺวสฺส กาโล โยหํ เวรํ อปฺเปยฺยนฺ’ติ โกสิยา ขคฺคํ นิพฺพาหิ. ทุติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุสฺส กุมารสฺส เอตทโหสิ—  ‘ปิตา โข มํ มรณกาเล อวจ “มา โข ตฺวํ, ตาต ทีฆาวุ, ทีฆํ ปสฺส, มา รสฺสํ, น หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวเรน เวรา สมฺมนฺติ; อเวเรน หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวรา สมฺมนฺตี”ติ. น โข เมตํ ปติรูปํ, ยฺวาหํ ปิตุวจนํ อติกฺกเมยฺยนฺ’ติ. ปุนเทว โกสิยา ขคฺคํ ปเวเสสิ.

1973

ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุสฺส กุมารสฺส เอตทโหสิ—  ‘อยํ โข พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา พหุโน อมฺหากํ อนตฺถสฺส การโก. อิมินา อมฺหากํ พลญฺจ วาหนญฺจ ชนปโท จ โกโส จ โกฏฺฐาคารญฺจ อจฺฉินฺนํ. อิมินา จ เม มาตาปิตโร หตา. อยํ ขฺวสฺส กาโล โยหํ เวรํ อปฺเปยฺยนฺ’ติ โกสิยา ขคฺคํ นิพฺพาหิ. ตติยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุสฺส กุมารสฺส เอตทโหสิ—  ‘ปิตา โข มํ มรณกาเล อวจ “มา โข ตฺวํ, ตาต ทีฆาวุ, ทีฆํ ปสฺส, มา รสฺสํ. น หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวเรน เวรา สมฺมนฺติ; อเวเรน หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวรา สมฺมนฺตี”ติ. น โข เมตํ ปติรูปํ, ยฺวาหํ ปิตุวจนํ อติกฺกเมยฺยนฺ’ติ ปุนเทว โกสิยา ขคฺคํ ปเวเสสิ.

1974

อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา ภีโต อุพฺพิคฺโค อุสฺสงฺกี อุตฺรโสฺต สหสา วุฏฺฐาสิ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร พฺรหฺมทตฺตํ กาสิราชานํ เอตทโวจ—  ‘กิสฺส ตฺวํ, เทว, ภีโต อุพฺพิคฺโค อุสฺสงฺกี อุตฺรโสฺต สหสา วุฏฺฐาสี’ติ? ‘อิธ มํ, ภเณ มาณวก, ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ ปุตฺโต ทีฆาวุ กุมาโร สุปินนฺเตน ขคฺเคน ปริปาเตสิ. เตนาหํ ภีโต อุพฺพิคฺโค อุสฺสงฺกี อุตฺรโสฺต สหสา วุฏฺฐาสินฺ’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร วาเมน หตฺเถน พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ สีสํ ปรามสิตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ขคฺคํ นิพฺพาเหตฺวา พฺรหฺมทตฺตํ กาสิราชานํ เอตทโวจ—  ‘อหํ โข โส, เทว, ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ ปุตฺโต ทีฆาวุ กุมาโร. พหุโน ตฺวํ อมฺหากํ อนตฺถสฺส การโก. ตยา อมฺหากํ พลญฺจ วาหนญฺจ ชนปโท จ โกโส จ โกฏฺฐาคารญฺจ อจฺฉินฺนํ. ตยา จ เม มาตาปิตโร หตา. อยํ ขฺวสฺส กาโล ยฺวาหํ เวรํ อปฺเปยฺยนฺ’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา ทีฆาวุสฺส กุมารสฺส ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ทีฆาวุํ กุมารํ เอตทโวจ—  ‘ชีวิตํ เม, ตาต ทีฆาวุ, เทหิ. ชีวิตํ เม, ตาต ทีฆาวุ, เทหี’ติ. ‘กฺยาหํ อุสฺสหามิ เทวสฺส ชีวิตํ ทาตุํ? เทโว โข เม ชีวิตํ ทเทยฺยา’ติ. ‘เตน หิ, ตาต ทีฆาวุ, ตฺวญฺเจว เม ชีวิตํ เทหิ, อหญฺจ เต ชีวิตํ ทมฺมี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต จ กาสิราชา ทีฆาวุ จ กุมาโร อญฺญมญฺญสฺส ชีวิตํ อทํสุ, ปาณิญฺจ อคฺคเหสุํ, สปถญฺจ อกํสุ อทฺทูภาย.

1975

อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา ทีฆาวุํ กุมารํ เอตทโวจ—  ‘เตน หิ, ตาต ทีฆาวุ, รถํ โยเชหิ, คมิสฺสามา’ติ. ‘เอวํ, เทวา’ติ โข, ภิกฺขเว, ทีฆาวุ กุมาโร พฺรหฺมทตฺตสฺส กาสิรญฺโญ ปฏิสฺสุตฺวา รถํ โยเชตฺวา พฺรหฺมทตฺตํ กาสิราชานํ เอตทโวจ—  ‘ยุตฺโต โข เต, เทว, รโถ, ยสฺสทานิ กาลํ มญฺญสี’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา รถํ อภิรุหิ. ทีฆาวุ กุมาโร รถํ เปเสสิ. ตถา ตถา รถํ เปเสสิ ยถา ยถา นจิรเสฺสว เสนาย สมาคญฺฉิ. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา พาราณสิํ ปวิสิตฺวา อมจฺเจ ปาริสชฺเช สนฺนิปาตาเปตฺวา เอตทโวจ—  ‘สเจ, ภเณ, ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ ปุตฺตํ ทีฆาวุํ กุมารํ ปเสฺสยฺยาถ, กินฺติ นํ กเรยฺยาถา’ติ? เอกจฺเจ เอวมาหํสุ—  ‘มยํ, เทว, หตฺเถ ฉินฺเทยฺยาม. มยํ, เทว, ปาเท ฉินฺเทยฺยาม. มยํ, เทว, หตฺถปาเท ฉินฺเทยฺยาม. มยํ, เทว, กณฺเณ ฉินฺเทยฺยาม. มยํ, เทว, นาสํ ฉินฺเทยฺยาม. มยํ, เทว, กณฺณนาสํ ฉินฺเทยฺยาม. มยํ, เทว, สีสํ ฉินฺเทยฺยามา’ติ. ‘อยํ โข, ภเณ, ทีฆีติสฺส โกสลรญฺโญ ปุตฺโต ทีฆาวุ กุมาโร. นายํ ลพฺภา กิญฺจิ กาตุํ. อิมินา จ เม ชีวิตํ ทินฺนํ, มยา จ อิมสฺส ชีวิตํ ทินฺนนฺ’ติ.

463.
1976

อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา ทีฆาวุํ กุมารํ เอตทโวจ—  ‘ยํ โข เต, ตาต ทีฆาวุ, ปิตา มรณกาเล อวจ “มา โข ตฺวํ, ตาต ทีฆาวุ, ทีฆํ ปสฺส, มา รสฺสํ. น หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวเรน เวรา สมฺมนฺติ; อเวเรน หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวรา สมฺมนฺตี”ติ, กิํ เต ปิตา สนฺธาย อวจา’ติ? ‘ยํ โข เม, เทว, ปิตา มรณกาเล อวจ “มา ทีฆนฺ”ติ มา จิรํ เวรํ อกาสีติ. อิมํ โข เม, เทว, ปิตา มรณกาเล อวจ “มา ทีฆนฺ”ติ. ยํ โข เม, เทว, ปิตา มรณกาเล อวจ “มา รสฺสนฺ”ติ มา ขิปฺปํ มิตฺเตหิ ภิชฺชิตฺถาติ. อิมํ โข เม, เทว, ปิตา มรณกาเล อวจ “มา รสฺสนฺ”ติ. ยํ โข เม, เทว, ปิตา มรณกาเล อวจ “น หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวเรน เวรา สมฺมนฺติ, อเวเรน หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวรา สมฺมนฺตี”ติ เทเวน เม มาตาปิตโร หตาติ. สจาหํ เทวํ ชีวิตา โวโรเปยฺยํ, เย เทวสฺส อตฺถกามา เต มํ ชีวิตา โวโรเปยฺยุํ, เย เม อตฺถกามา เต เต ชีวิตา โวโรเปยฺยุํ—  เอวํ ตํ เวรํ เวเรน น วูปสเมยฺย. อิทานิ จ ปน เม เทเวน ชีวิตํ ทินฺนํ, มยา จ เทวสฺส ชีวิตํ ทินฺนํ. เอวํ ตํ เวรํ อเวเรน วูปสนฺตํ. อิมํ โข เม, เทว, ปิตา มรณกาเล อวจ—  “น หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวเรน เวรา สมฺมนฺติ; อเวเรน หิ, ตาต ทีฆาวุ, เวรา สมฺมนฺตี”’ติ. อถ โข, ภิกฺขเว, พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา—  ‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ. ยาว ปณฺฑิโต อยํ ทีฆาวุ กุมาโร, ยตฺร หิ นาม ปิตุโน สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานิสฺสตี’ติ เปตฺติกํ พลญฺจ วาหนญฺจ ชนปทญฺจ โกสญฺจ โกฏฺฐาคารญฺจ ปฏิปาเทสิ, ธีตรญฺจ อทาสิ. เตสญฺหิ นาม, ภิกฺขเว, ราชูนํ อาทินฺนทณฺฑานํ อาทินฺนสตฺถานํ เอวรูปํ ขนฺติโสรจฺจํ ภวิสฺสติ. อิธ โข ปน ตํ, ภิกฺขเว, โสเภถ ยํ ตุมฺเห เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตา สมานา ขมา จ ภเวยฺยาถ โสรตา จา”ติ?

1977

ตติยมฺปิ โข ภควา เต ภิกฺขู เอตทโวจ—  “อลํ, ภิกฺขเว, มา ภณฺฑนํ มา กลหํ มา วิคฺคหํ มา วิวาทนฺ”ติ. ตติยมฺปิ โข โส อธมฺมวาที ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “อาคเมตุ, ภนฺเต, ภควา ธมฺมสฺสามี; อปฺโปสฺสุกฺโก, ภนฺเต, ภควา ทิฏฺฐธมฺมสุขวิหารมนุยุตฺโต วิหรตุ. มยเมเตน ภณฺฑเนน กลเหน วิคฺคเหน วิวาเทน ปญฺญายิสฺสามา”ติ. อถ โข ภควา—  “ปริยาทินฺนรูปา โข อิเม โมฆปุริสา, นยิเม สุกรา สญฺญาเปตุนฺ”ติ—  อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามิ.

1978

ทีฆาวุภาณวาโร นิฏฺฐิโต ปฐโม.

464.
1979

อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย โกสมฺพิํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. โกสมฺพิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สํฆมชฺเฌ ฐิตโกว อิมา คาถาโย อภาสิ—

1980

“ปุถุสทฺโท สมชโน,
น พาโล โกจิ มญฺญถ;
สํฆสฺมิํ ภิชฺชมานสฺมิํ,
นาญฺญํ ภิโยฺย อมญฺญรุํ.

1981

ปริมุฏฺฐา ปณฺฑิตาภาสา,
วาจาโคจรภาณิโน;
ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามํ,
เยน นีตา น ตํ วิทู.

1982

อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ,
อชินิ มํ อหาสิ เม;
เย จ ตํ อุปนยฺหนฺติ,
เวรํ เตสํ น สมฺมติ.

1983

อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ,
อชินิ มํ อหาสิ เม;
เย จ ตํ นุปนยฺหนฺติ,
เวรํ เตสูปสมฺมติ.

1984

น หิ เวเรน เวรานิ,
สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ;
อเวเรน จ สมฺมนฺติ,
เอสธมฺโม สนนฺตโน.

1985

ปเร จ น วิชานนฺติ,
มยเมตฺถ ยมามเส;
เย จ ตตฺถ วิชานนฺติ,
ตโต สมฺมนฺติ เมธคา.

1986

อฏฺฐิจฺฉินฺนา ปาณหรา,
ควาสฺสธนหาริโน;
รฏฺฐํ วิลุมฺปมานานํ,
เตสมฺปิ โหติ สงฺคติ.

1987

กสฺมา ตุมฺหาก โน สิยา.

1988

สเจ ลเภถ นิปกํ สหายํ,
สทฺธิญฺจรํ สาธุวิหาริ ธีรํ;
อภิภุยฺย สพฺพานิ ปริสฺสยานิ,
จเรยฺย เตนตฺตมโน สตีมา.

1989

โน เจ ลเภถ นิปกํ สหายํ,
สทฺธิญฺจรํ สาธุวิหาริ ธีรํ;
ราชาว รฏฺฐํ วิชิตํ ปหาย,
เอโก จเร มาตงฺครญฺเญว นาโค.

1990

เอกสฺส จริตํ เสโยฺย,
นตฺถิ พาเล สหายตา;
เอโก จเร น จ ปาปานิ กยิรา,
อปฺโปสฺสุกฺโก มาตงฺครญฺเญว นาโค”ติ.