10.5 ปาลิเลยฺยกคมนกถา
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตญฺจ อนุรุทฺธํ อายสฺมนฺตญฺจ นนฺทิยํ อายสฺมนฺตญฺจ กิมิลํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺฐายาสนา เยน ปาลิเลยฺยกํ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ปาลิเลยฺยกํ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา ปาลิเลยฺยเก วิหรติ รกฺขิตวนสณฺเฑ ภทฺทสาลมูเล. อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ— “อหํ โข ปุพฺเพ อากิณฺโณ น ผาสุ วิหาสิํ เตหิ โกสมฺพเกหิ ภิกฺขูหิ ภณฺฑนการเกหิ กลหการเกหิ วิวาทการเกหิ ภสฺสการเกหิ สํเฆ อธิกรณการเกหิ. โสมฺหิ เอตรหิ เอโก อทุติโย สุขํ ผาสุ วิหรามิ อญฺญเตฺรว เตหิ โกสมฺพเกหิ ภิกฺขูหิ ภณฺฑนการเกหิ กลหการเกหิ วิวาทการเกหิ ภสฺสการเกหิ สํเฆ อธิกรณการเกหี”ติ.
อญฺญตโรปิ โข หตฺถินาโค อากิณฺโณ วิหรติ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกฬเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ, ฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทติ, โอภคฺโคภคฺคญฺจสฺส สาขาภงฺคํ ขาทนฺติ, อาวิลานิ จ ปานียานิ ปิวติ, โอคาหา จสฺส โอติณฺณสฺส หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติ. อถ โข ตสฺส หตฺถินาคสฺส เอตทโหสิ— “อหํ โข อากิณฺโณ วิหรามิ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกฬเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ, ฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทามิ, โอภคฺโคภคฺคญฺจ เม สาขาภงฺคํ ขาทนฺติ, อาวิลานิ จ ปานียานิ ปิวามิ, โอคาหา จ เม โอติณฺณสฺส หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติ. ยนฺนูนาหํ เอโกว คณสฺมา วูปกฏฺโฐ วิหเรยฺยนฺ”ติ. อถ โข โส หตฺถินาโค ยูถา อปกฺกมฺม เยน ปาลิเลยฺยกํ รกฺขิตวนสณฺโฑ ภทฺทสาลมูลํ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา โสณฺฑาย ภควโต ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺฐาเปติ, อปฺปหริตญฺจ กโรติ.
อถ โข ตสฺส หตฺถินาคสฺส เอตทโหสิ— “อหํ โข ปุพฺเพ อากิณฺโณ น ผาสุ วิหาสิํ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกฬเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ, ฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทิํ, โอภคฺโคภคฺคญฺจ เม สาขาภงฺคํ ขาทิํสุ, อาวิลานิ จ ปานียานิ อปายิํ โอคาหา จ เม โอติณฺณสฺส หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย อคมํสุ. โสมฺหิ เอตรหิ เอโก อทุติโย สุขํ ผาสุ วิหรามิ อญฺญเตฺรว หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกฬเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหี”ติ.
อถ โข ภควา อตฺตโน จ ปวิเวกํ วิทิตฺวา ตสฺส จ หตฺถินาคสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ—
“เอตํ นาคสฺส นาเคน,
อีสาทนฺตสฺส หตฺถิโน;
สเมติ จิตฺตํ จิตฺเตน,
ยเทโก รมตี วเน”ติ.
อถ โข ภควา ปาลิเลยฺยเก ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน สาวตฺถิ ตทวสริ. ตตฺร สุทํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. อถ โข โกสมฺพกา อุปาสกา— “อิเม โข อยฺยา โกสมฺพกา ภิกฺขู พหุโน อมฺหากํ อนตฺถสฺส การกา. อิเมหิ อุพฺพาโฬฺห ภควา ปกฺกนฺโต. หนฺท มยํ อเยฺย โกสมฺพเก ภิกฺขู เนว อภิวาเทยฺยาม, น ปจฺจุฏฺเฐยฺยาม, น อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ กเรยฺยาม, น สกฺกเรยฺยาม, น ครุํ กเรยฺยาม, น มาเนยฺยาม, น ภเชยฺยาม, น ปูเชยฺยาม, อุปคตานมฺปิ ปิณฺฑกํ น ทชฺเชยฺยาม— เอวํ อิเม อเมฺหหิ อสกฺกริยมานา อครุกริยมานา อมานิยมานา อภชิยมานา อปูชิยมานา อสกฺการปกตา ปกฺกมิสฺสนฺติ วา วิพฺภมิสฺสนฺติ วา ภควนฺตํ วา ปสาเทสฺสนฺตี”ติ. อถ โข โกสมฺพกา อุปาสกา โกสมฺพเก ภิกฺขู เนว อภิวาเทสุํ, น ปจฺจุฏฺเฐสุํ, น อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ อกํสุ, น สกฺกริํสุ, น ครุํ กริํสุ, น มาเนสุํ, น ภเชสุํ, น ปูเชสุํ, อุปคตานมฺปิ ปิณฺฑกํ น อทํสุ. อถ โข โกสมฺพกา ภิกฺขู โกสมฺพเกหิ อุปาสเกหิ อสกฺกริยมานา อครุกริยมานา อมานิยมานา อภชิยมานา อปูชิยมานา อสกฺการปกตา เอวมาหํสุ— “หนฺท มยํ, อาวุโส, สาวตฺถิํ คนฺตฺวา ภควโต สนฺติเก อิมํ อธิกรณํ วูปสเมยฺยามา”ติ.