10.6 อฏฺฐารสวตฺถุกถา
อถ โข โกสมฺพกา ภิกฺขู เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สาวตฺถิ เตนุปสงฺกมิํสุ. อสฺโสสิ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต— “เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สํเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี”ติ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ— “เต กิร, ภนฺเต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สํเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติ. กถาหํ, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฏิปชฺชามี”ติ? “เตน หิ ตฺวํ, สาริปุตฺต, ยถา ธมฺโม ตถา ติฏฺฐาหี”ติ. “กถาหํ, ภนฺเต, ชาเนยฺยํ ธมฺมํ วา อธมฺมํ วา”ติ?
“อฏฺฐารสหิ โข, สาริปุตฺต, วตฺถูหิ อธมฺมวาที ชานิตพฺโพ. อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปติ; อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ; อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อปญฺญตฺตํ ตถาคเตน ปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ปญฺญตฺตํ ตถาคเตน อปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาปตฺติํ อาปตฺตีติ ทีเปติ, อาปตฺติํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ; ลหุกํ อาปตฺติํ ครุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ, ครุกํ อาปตฺติํ ลหุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ; สาวเสสํ อาปตฺติํ อนวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อนวเสสํ อาปตฺติํ สาวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ; ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ— อิเมหิ โข, สาริปุตฺต, อฏฺฐารสหิ วตฺถูหิ อธมฺมวาที ชานิตพฺโพ.
อฏฺฐารสหิ จ โข, สาริปุตฺต, วตฺถูหิ ธมฺมวาที ชานิตพฺโพ. อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปติ, ธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ; อวินยํ อวินโยติ ทีเปติ, วินยํ วินโยติ ทีเปติ; อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อปญฺญตฺตํ ตถาคเตน อปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ปญฺญตฺตํ ตถาคเตน ปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาปตฺติํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ, อาปตฺติํ อาปตฺตีติ ทีเปติ; ลหุกํ อาปตฺติํ ลหุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ, ครุกํ อาปตฺติํ ครุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ; สาวเสสํ อาปตฺติํ สาวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อนวเสสํ อาปตฺติํ อนวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ; ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ— อิเมหิ โข, สาริปุตฺต, อฏฺฐารสหิ วตฺถูหิ ธมฺมวาที ชานิตพฺโพ”ติ.
อสฺโสสิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน …เป… อสฺโสสิ โข อายสฺมา มหากสฺสโป… อสฺโสสิ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน… อสฺโสสิ โข อายสฺมา มหาโกฏฺฐิโก… อสฺโสสิ โข อายสฺมา มหากปฺปิโน… อสฺโสสิ โข อายสฺมา มหาจุนฺโท… อสฺโสสิ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ… อสฺโสสิ โข อายสฺมา เรวโต… อสฺโสสิ โข อายสฺมา อุปาลิ… อสฺโสสิ โข อายสฺมา อานนฺโท… อสฺโสสิ โข อายสฺมา ราหุโล— “เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สํเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี”ติ. อถ โข อายสฺมา ราหุโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ราหุโล ภควนฺตํ เอตทโวจ— “เต กิร, ภนฺเต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สํเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติ. กถาหํ, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฏิปชฺชามี”ติ? “เตน หิ ตฺวํ, ราหุล, ยถา ธมฺโม ตถา ติฏฺฐาหี”ติ. “กถาหํ, ภนฺเต, ชาเนยฺยํ ธมฺมํ วา อธมฺมํ วา”ติ?
“อฏฺฐารสหิ โข, ราหุล, วตฺถูหิ อธมฺมวาที ชานิตพฺโพ. อิธ, ราหุล, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปติ; อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ; อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อปญฺญตฺตํ ตถาคเตน ปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ปญฺญตฺตํ ตถาคเตน อปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาปตฺติํ อาปตฺตีติ ทีเปติ, อาปตฺติํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ; ลหุกํ อาปตฺติํ ครุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ, ครุกํ อาปตฺติํ ลหุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ; สาวเสสํ อาปตฺติํ อนวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อนวเสสํ อาปตฺติํ สาวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ; ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ— อิเมหิ โข, ราหุล, อฏฺฐารสหิ วตฺถูหิ อธมฺมวาที ชานิตพฺโพ.
อฏฺฐารสหิ จ โข, ราหุล, วตฺถูหิ ธมฺมวาที ชานิตพฺโพ. อิธ, ราหุล, ภิกฺขุ อธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปติ, ธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ; อวินยํ อวินโยติ ทีเปติ, วินยํ วินโยติ ทีเปติ; อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อปญฺญตฺตํ ตถาคเตน อปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ปญฺญตฺตํ ตถาคเตน ปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาปตฺติํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ, อาปตฺติํ อาปตฺตีติ ทีเปติ; ลหุกํ อาปตฺติํ ลหุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ, ครุกํ อาปตฺติํ ครุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ; สาวเสสํ อาปตฺติํ สาวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อนวเสสํ อาปตฺติํ อนวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ; ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ— อิเมหิ โข, ราหุล, อฏฺฐารสหิ วตฺถูหิ ธมฺมวาที ชานิตพฺโพ”ติ.
อสฺโสสิ โข มหาปชาปติ โคตมี— “เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สํเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี”ติ. อถ โข มหาปชาปติ โคตมี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิ. เอกมนฺตํ ฐิตา โข มหาปชาปติ โคตมี ภควนฺตํ เอตทโวจ— “เต กิร, ภนฺเต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สํเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติ. กถาหํ, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฏิปชฺชามี”ติ? “เตน หิ ตฺวํ, โคตมิ, อุภยตฺถ ธมฺมํ สุณ. อุภยตฺถ ธมฺมํ สุตฺวา เย ตตฺถ ภิกฺขู ธมฺมวาทิโน เตสํ ทิฏฺฐิญฺจ ขนฺติญฺจ รุจิญฺจ อาทายญฺจ โรเจหิ. ยญฺจ กิญฺจิ ภิกฺขุนิสํเฆน ภิกฺขุสํฆโต ปจฺจาสีสิตพฺพํ สพฺพํ ตํ ธมฺมวาทิโตว ปจฺจาสีสิตพฺพนฺ”ติ.
อสฺโสสิ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ— “เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สํเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี”ติ. อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ— “เต กิร, ภนฺเต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สํเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติ. กถาหํ, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฏิปชฺชามี”ติ? “เตน หิ ตฺวํ, คหปติ, อุภยตฺถ ทานํ เทหิ. อุภยตฺถ ทานํ ทตฺวา อุภยตฺถ ธมฺมํ สุณ. อุภยตฺถ ธมฺมํ สุตฺวา เย ตตฺถ ภิกฺขู ธมฺมวาทิโน เตสํ ทิฏฺฐิญฺจ ขนฺติญฺจ รุจิญฺจ อาทายญฺจ โรเจหี”ติ.
อสฺโสสิ โข วิสาขา มิคารมาตา— “เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สํเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี”ติ. อถ โข วิสาขา มิคารมาตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข วิสาขา มิคารมาตา ภควนฺตํ เอตทโวจ— “เต กิร, ภนฺเต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สํเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติ. กถาหํ, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฏิปชฺชามี”ติ? “เตน หิ ตฺวํ, วิสาเข, อุภยตฺถ ทานํ เทหิ. อุภยตฺถ ทานํ ทตฺวา อุภยตฺถ ธมฺมํ สุณ. อุภยตฺถ ธมฺมํ สุตฺวา เย ตตฺถ ภิกฺขู ธมฺมวาทิโน เตสํ ทิฏฺฐิญฺจ ขนฺติญฺจ รุจิญฺจ อาทายญฺจ โรเจหี”ติ.
อถ โข โกสมฺพกา ภิกฺขู อนุปุพฺเพน เยน สาวตฺถิ ตทวสรุํ. อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ— “เต กิร, ภนฺเต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สํเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อนุปฺปตฺตา. กถํ นุ โข, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ เสนาสเน ปฏิปชฺชิตพฺพนฺ”ติ? “เตน หิ, สาริปุตฺต, วิวิตฺตํ เสนาสนํ ทาตพฺพนฺ”ติ. “สเจ ปน, ภนฺเต, วิวิตฺตํ น โหติ, กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺ”ติ? “เตน หิ, สาริปุตฺต, วิวิตฺตํ กตฺวาปิ ทาตพฺพํ, น เตฺววาหํ, สาริปุตฺต, เกนจิ ปริยาเยน วุฑฺฒตรสฺส ภิกฺขุโน เสนาสนํ ปฏิพาหิตพฺพนฺติ วทามิ. โย ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา”ติ.
“อามิเส ปน, ภนฺเต, กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺ”ติ? “อามิสํ โข, สาริปุตฺต, สพฺเพสํ สมกํ ภาเชตพฺพนฺ”ติ.