2.24 สํฆุโปสถาทิปฺปเภท
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุโปสเถ จตฺตาโร ภิกฺขู วิหรนฺติ. อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ— “ภควตา ปญฺญตฺตํ— ‘อุโปสโถ กาตพฺโพ’ติ, มยญฺจมฺหา จตฺตาโร ชนา, กถํ นุ โข อเมฺหหิ อุโปสโถ กาตพฺโพ”ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. “อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตุนฺนํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุนฺ”ติ.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุโปสเถ ตโย ภิกฺขู วิหรนฺติ. อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ— “ภควตา อนุญฺญาตํ จตุนฺนํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ, มยญฺจมฺหา ตโย ชนา, กถํ นุ โข อเมฺหหิ อุโปสโถ กาตพฺโพ”ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. “อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติณฺณํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํ. เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, กาตพฺโพ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน เต ภิกฺขู ญาเปตพฺพา—
‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา. อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส. ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, มยํ อญฺญมญฺญํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กเรยฺยามา’ติ.
เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เต ภิกฺขู เอวมสฺสุ วจนียา— ‘ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส; ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถ. ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส; ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถ. ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส; ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’ติ.
นวเกน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เต ภิกฺขู เอวมสฺสุ วจนียา— ‘ปริสุทฺโธ อหํ, ภนฺเต; ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถ. ปริสุทฺโธ อหํ, ภนฺเต; ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถ. ปริสุทฺโธ อหํ, ภนฺเต; ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’”ติ.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุโปสเถ ทฺเว ภิกฺขู วิหรนฺติ. อถ โข เตสํ ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ— “ภควตา อนุญฺญาตํ จตุนฺนํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ, ติณฺณนฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํ. มยญฺจมฺหา ทฺเว ชนา. กถํ นุ โข อเมฺหหิ อุโปสโถ กาตพฺโพ”ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. “อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํ. เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, กาตพฺโพ. เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา นโว ภิกฺขุ เอวมสฺส วจนีโย— ‘ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส; ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรหิ. ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส; ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรหิ. ปริสุทฺโธ อหํ, อาวุโส; ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรหี’ติ.
นวเกน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เถโร ภิกฺขุ เอวมสฺส วจนีโย— ‘ปริสุทฺโธ อหํ, ภนฺเต; ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถ. ปริสุทฺโธ อหํ, ภนฺเต; ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถ. ปริสุทฺโธ อหํ, ภนฺเต; ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’”ติ.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุโปสเถ เอโก ภิกฺขุ วิหรติ. อถ โข ตสฺส ภิกฺขุโน เอตทโหสิ— “ภควตา อนุญฺญาตํ จตุนฺนํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตุํ, ติณฺณนฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํ, ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํ. อหญฺจมฺหิ เอกโก. กถํ นุ โข มยา อุโปสโถ กาตพฺโพ”ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ. “อิธ ปน, ภิกฺขเว, อญฺญตรสฺมิํ อาวาเส ตทหุโปสเถ เอโก ภิกฺขุ วิหรติ. เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ยตฺถ ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺติ อุปฏฺฐานสาลาย วา, มณฺฑเป วา, รุกฺขมูเล วา, โส เทโส สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺฐาเปตฺวา อาสนํ ปญฺญเปตฺวา ปทีปํ กตฺวา นิสีทิตพฺพํ. สเจ อญฺเญ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, เตหิ สทฺธิํ อุโปสโถ กาตพฺโพ. โน เจ อาคจฺฉนฺติ, อชฺช เม อุโปสโถติ อธิฏฺฐาตพฺโพ. โน เจ อธิฏฺฐเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส.
ตตฺร, ภิกฺขเว, ยตฺถ จตฺตาโร ภิกฺขู วิหรนฺติ, น เอกสฺส ปาริสุทฺธิํ อาหริตฺวา ตีหิ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพํ. อุทฺทิเสยฺยุญฺเจ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยตฺถ ตโย ภิกฺขู วิหรนฺติ, น เอกสฺส ปาริสุทฺธิํ อาหริตฺวา ทฺวีหิ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ กาตพฺโพ. กเรยฺยุญฺเจ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ตตฺร, ภิกฺขเว, ยตฺถ ทฺเว ภิกฺขู วิหรนฺติ, น เอกสฺส ปาริสุทฺธิํ อาหริตฺวา เอเกน อธิฏฺฐาตพฺโพ. อธิฏฺฐเหยฺย เจ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา”ติ.