6.15 สุนิธวสฺสการวตฺถุ
เตน โข ปน สมเยน สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหาย. อทฺทสา โข ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สมฺพหุลา เทวตาโย ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติโย. ยสฺมิํ ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มเหสกฺขานํ ตตฺถ ราชูนํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมิํ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มชฺฌิมานํ ตตฺถ ราชูนํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมิํ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, นีจานํ ตตฺถ ราชูนํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ.
อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ— “เก นุ โข เต, อานนฺท, ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺตี”ติ? “สุนิธวสฺสการา, ภนฺเต, มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหายา”ติ. “เสยฺยถาปิ, อานนฺท, เทเวหิ ตาวติํเสหิ สทฺธิํ มนฺเตตฺวา; เอวเมว โข, อานนฺท, สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ปาฏลิคาเม นครํ มาเปนฺติ วชฺชีนํ ปฏิพาหาย. อิธาหํ, อานนฺท, รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย อทฺทสํ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สมฺพหุลา เทวตาโย ปาฏลิคาเม วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติโย. ยสฺมิํ ปเทเส มเหสกฺขา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มเหสกฺขานํ ตตฺถ ราชูนํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมิํ ปเทเส มชฺฌิมา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, มชฺฌิมานํ ตตฺถ ราชูนํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยสฺมิํ ปเทเส นีจา เทวตา วตฺถูนิ ปริคฺคณฺหนฺติ, นีจานํ ตตฺถ ราชูนํ ราชมหามตฺตานํ จิตฺตานิ นมนฺติ นิเวสนานิ มาเปตุํ. ยาวตา, อานนฺท, อริยํ อายตนํ, ยาวตา วณิปฺปโถ, อิทํ อคฺคนครํ ภวิสฺสติ ปาฏลิปุตฺตํ ปุฏเภทนํ. ปาฏลิปุตฺตสฺส โข, อานนฺท, ตโย อนฺตรายา ภวิสฺสนฺติ— อคฺคิโต วา อุทกโต วา อพฺภนฺตรโต วา มิถุเภทา”ติ.
อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิํสุ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐํสุ. เอกมนฺตํ ฐิตา โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ— “อธิวาเสตุ โน ภวํ โคตโม อชฺชตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสํเฆนา”ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา ปกฺกมิํสุ. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสุํ— “กาโล, โภ โคตม, นิฏฺฐิตํ ภตฺตนฺ”ติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สุนิธวสฺสการานํ มคธมหามตฺตานํ ปริเวสนา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธิํ ภิกฺขุสํเฆน. อถ โข สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสํฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข สุนิธวสฺสกาเร มคธมหามตฺเต ภควา อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิ—
“ยสฺมิํ ปเทเส กปฺเปติ,
วาสํ ปณฺฑิตชาติโย;
สีลวนฺเตตฺถ โภเชตฺวา,
สญฺญเต พฺรหฺมจารโย.
ยา ตตฺถ เทวตา อาสุํ,
ตาสํ ทกฺขิณมาทิเส;
ตา ปูชิตา ปูชยนฺติ,
มานิตา มานยนฺติ นํ.
ตโต นํ อนุกมฺปนฺติ,
มาตา ปุตฺตํว โอรสํ;
เทวตานุกมฺปิโต โปโส,
สทา ภทฺรานิ ปสฺสตี”ติ.
อถ โข ภควา สุนิธวสฺสกาเร มคธมหามตฺเต อิมาหิ คาถาหิ อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามิ.
เตน โข ปน สมเยน สุนิธวสฺสการา มคธมหามตฺตา ภควนฺตํ ปิฏฺฐิโต ปิฏฺฐิโต อนุพนฺธา โหนฺติ— “เยนชฺช สมโณ โคตโม ทฺวาเรน นิกฺขมิสฺสติ, ตํ โคตมทฺวารํ นาม ภวิสฺสติ; เยน ติตฺเถน คงฺคํ นทิํ อุตฺตริสฺสติ, ตํ โคตมติตฺถํ นาม ภวิสฺสตี”ติ.
อถ โข ภควา เยน ทฺวาเรน นิกฺขมิ, ตํ โคตมทฺวารํ นาม อโหสิ. อถ โข ภควา เยน คงฺคา นที เตนุปสงฺกมิ. เตน โข ปน สมเยน คงฺคา นที ปูรา โหติ สมติตฺติกา กากเปยฺยา. มนุสฺสา อญฺเญ นาวํ ปริเยสนฺติ, อญฺเญ อุฬุมฺปํ ปริเยสนฺติ, อญฺเญ กุลฺลํ พนฺธนฺติ โอรา ปารํ คนฺตุกามา.
อทฺทสา โข ภควา เต มนุเสฺส อญฺเญ นาวํ ปริเยสนฺเต, อญฺเญ อุฬุมฺปํ ปริเยสนฺเต, อญฺเญ กุลฺลํ พนฺธนฺเต โอรา ปารํ คนฺตุกาเม, ทิสฺวาน เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิญฺเชยฺย; เอวเมว โข— คงฺคาย นทิยา โอริมตีเร อนฺตรหิโต ปาริมตีเร ปจฺจุฏฺฐาสิ สทฺธิํ ภิกฺขุสํเฆน.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ—
“เย ตรนฺติ อณฺณวํ สรํ,
เสตุํ กตฺวาน วิสชฺช ปลฺลลานิ;
กุลฺลญฺหิ ชโน พนฺธติ,
ติณฺณา เมธาวิโน ชนา”ติ.