6.18 ลิจฺฉวีวตฺถุ
อโสฺสสุํ โข เวสาลิกา ลิจฺฉวี— “ภควา กิร โกฏิคามํ อนุปฺปตฺโต”ติ. อถ โข เวสาลิกา ลิจฺฉวี ภทฺรานิ ภทฺรานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺรํ ภทฺรํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภเทฺรหิ ภเทฺรหิ ยาเนหิ เวสาลิยา นิยฺยาสุํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย. อปฺเปกจฺเจ ลิจฺฉวี นีลา โหนฺติ นีลวณฺณา นีลวตฺถา นีลาลงฺการา, อปฺเปกจฺเจ ลิจฺฉวี ปีตา โหนฺติ ปีตวณฺณา ปีตวตฺถา ปีตาลงฺการา, อปฺเปกจฺเจ ลิจฺฉวี โลหิตา โหนฺติ โลหิตวณฺณา โลหิตวตฺถา โลหิตาลงฺการา, อปฺเปกจฺเจ ลิจฺฉวี โอทาตา โหนฺติ โอทาตวณฺณา โอทาตวตฺถา โอทาตาลงฺการา. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ทหรานํ ทหรานํ ลิจฺฉวีนํ อีสาย อีสํ ยุเคน ยุคํ จกฺเกน จกฺกํ อกฺเขน อกฺขํ ปฏิวฏฺเฏสิ. อถ โข เต ลิจฺฉวี อมฺพปาลิํ คณิกํ เอตทโวจุํ— “กิสฺส, เช อมฺพปาลิ, ทหรานํ ทหรานํ ลิจฺฉวีนํ อีสาย อีสํ ยุเคน ยุคํ จกฺเกน จกฺกํ อกฺเขน อกฺขํ ปฏิวฏฺเฏสี”ติ? “ตถา หิ ปน มยา, อยฺยปุตฺตา, สฺวาตนาย พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสํโฆ นิมนฺติโต”ติ. “เทหิ, เช อมฺพปาลิ, อมฺหากํ เอตํ ภตฺตํ สตสหเสฺสนา”ติ. “สเจปิ เม, อยฺยปุตฺตา, เวสาลิํ สาหารํ ทชฺเชยฺยาถ, เนว ทชฺชาหํ ตํ ภตฺตนฺ”ติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี องฺคุลิํ โผเฏสุํ— “ชิตมฺห วต โภ อมฺพกาย, ปราชิตมฺห วต โภ อมฺพกายา”ติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ. อทฺทสา โข ภควา เต ลิจฺฉวี ทูรโตว อาคจฺฉนฺเต, ทิสฺวาน ภิกฺขู อามนฺเตสิ— “เยหิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขูหิ เทวา ตาวติํสา อทิฏฺฐปุพฺพา, โอโลเกถ, ภิกฺขเว, ลิจฺฉวีปริสํ; อปโลเกถ, ภิกฺขเว, ลิจฺฉวีปริสํ; อุปสํหรถ, ภิกฺขเว, ลิจฺฉวีปริสํ ตาวติํสปริสนฺ”ติ.
อถ โข เต ลิจฺฉวี ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ, ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติกาว เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ. เอกมนฺตํ นิสินฺเน โข เต ลิจฺฉวี ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ. อถ โข เต ลิจฺฉวี, ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุตฺเตชิตา สมฺปหํสิตา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ— “อธิวาเสตุ โน, ภนฺเต, ภควา สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสํเฆนา”ติ. “อธิวุฏฺโฐมฺหิ, ลิจฺฉวี, สฺวาตนาย อมฺพปาลิยา คณิกาย ภตฺตนฺ”ติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี องฺคุลิํ โผเฏสุํ— “ชิตมฺห วต โภ อมฺพกาย, ปราชิตมฺห วต โภ อมฺพกายา”ติ. อถ โข เต ลิจฺฉวี ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฏฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมิํสุ.
อถ โข ภควา โกฏิคาเม ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน นาติกา เตนุปสงฺกมิ. ตตฺร สุทํ ภควา นาติเก วิหรติ คิญฺชกาวสเถ. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก อาราเม ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ— “กาโล, ภนฺเต, นิฏฺฐิตํ ภตฺตนฺ”ติ. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อมฺพปาลิยา คณิกาย ปริเวสนา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ สทฺธิํ ภิกฺขุสํเฆน. อถ โข อมฺพปาลี คณิกา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสํฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข อมฺพปาลี คณิกา ภควนฺตํ เอตทโวจ— “อิมาหํ, ภนฺเต, อมฺพวนํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสํฆสฺส ทมฺมี”ติ. ปฏิคฺคเหสิ ภควา อารามํ. อถ โข ภควา อมฺพปาลิํ คณิกํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺฐายาสนา เยน มหาวนํ เตนุปสงฺกมิ. ตตฺร สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํ.
ลิจฺฉวิภาณวาโร นิฏฺฐิโต ตติโย.