Skip to content

6.6 อุคฺคหิตปฏิคฺคหณ

275.
1255

เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ภิกฺขู กาสีสุ วสฺสํวุฏฺฐา ราชคหํ คจฺฉนฺตา ภควนฺตํ ทสฺสนาย อนฺตรามคฺเค น ลภิํสุ ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูริํ; พหุญฺจ ผลขาทนียํ อโหสิ; กปฺปิยการโก จ น อโหสิ. อถ โข เต ภิกฺขู กิลนฺตรูปา เยน ราชคหํ เวฬุวนํ กลนฺทกนิวาโป, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ. อาจิณฺณํ โข ปเนตํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ อาคนฺตุเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิํ ปฏิสมฺโมทิตุํ. อถ โข ภควา เต ภิกฺขู เอตทโวจ—  “กจฺจิ, ภิกฺขเว, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิตฺถ อปฺปกิลมเถน อทฺธานํ อาคตา; กุโต จ ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อาคจฺฉถา”ติ? “ขมนียํ, ภควา, ยาปนียํ, ภควา. อิธ มยํ, ภนฺเต, กาสีสุ วสฺสํวุฏฺฐา ราชคหํ อาคจฺฉนฺตา ภควนฺตํ ทสฺสนาย อนฺตรามคฺเค น ลภิมฺหา ลูขสฺส วา ปณีตสฺส วา โภชนสฺส ยาวทตฺถํ ปาริปูริํ; พหุญฺจ ผลขาทนียํ อโหสิ; กปฺปิยการโก จ น อโหสิ; เตน มยํ กิลนฺตรูปา อทฺธานํ อาคตา”ติ. อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ—  “อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยตฺถ ผลขาทนียํ ปสฺสติ, กปฺปิยการโก จ น โหติ, สามํ คเหตฺวา, หริตฺวา, กปฺปิยการเก ปสฺสิตฺวา, ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา, ปฏิคฺคหาเปตฺวา ปริภุญฺชิตุํ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุคฺคหิตํ ปฏิคฺคหิตุนฺ”ติ.

276.
1256

เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส พฺราหฺมณสฺส นวา จ ติลา นวญฺจ มธุ อุปฺปนฺนา โหนฺติ. อถ โข ตสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ—  “ยนฺนูนาหํ นเว จ ติเล นวญฺจ มธุํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสํฆสฺส ทเทยฺยนฺ”ติ. อถ โข โส พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ ปฏิสมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิ. เอกมนฺตํ ฐิโต โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ, สทฺธิํ ภิกฺขุสํเฆนา”ติ. อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวน. อถ โข โส พฺราหฺมโณ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา ปกฺกามิ. อถ โข โส พฺราหฺมโณ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ—  “กาโล, โภ โคตม, นิฏฺฐิตํ ภตฺตนฺ”ติ.

1257

อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ตสฺส พฺราหฺมณสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิ, สทฺธิํ ภิกฺขุสํเฆน. อถ โข โส พฺราหฺมโณ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสํฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา ภควนฺตํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ตํ พฺราหฺมณํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา, สมาทเปตฺวา, สมุตฺเตเชตฺวา, สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺฐายาสนา ปกฺกามิ.

1258

อถ โข ตสฺส พฺราหฺมณสฺส อจิรปกฺกนฺตสฺส ภควโต เอตทโหสิ—  “เยสํ โข มยา อตฺถาย พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสํโฆ นิมนฺติโต, ‘นเว จ ติเล นวญฺจ มธุํ ทสฺสามี’ติ, เต มยา ปมุฏฺฐา ทาตุํ. ยนฺนูนาหํ นเว จ ติเล นวญฺจ มธุํ โกลมฺเพหิ จ ฆเฏหิ จ อารามํ หราเปยฺยนฺ”ติ. อถ โข โส พฺราหฺมโณ นเว จ ติเล นวญฺจ มธุํ โกลมฺเพหิ จ ฆเฏหิ จ อารามํ หราเปตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิ. เอกมนฺตํ ฐิโต โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ—  “เยสํ โข มยา, โภ โคตม, อตฺถาย พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสํโฆ นิมนฺติโต, ‘นเว จ ติเล นวญฺจ มธุํ ทสฺสามี’ติ, เต มยา ปมุฏฺฐา ทาตุํ. ปฏิคฺคณฺหาตุ เม ภวํ โคตโม นเว จ ติเล นวญฺจ มธุนฺ”ติ. “เตน หิ, พฺราหฺมณ, ภิกฺขูนํ เทหี”ติ.

1259

เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ทุพฺภิกฺเข อปฺปมตฺตเกปิ ปวาเรนฺติ, ปฏิสงฺขาปิ ปฏิกฺขิปนฺติ, สพฺโพ จ สํโฆ ปวาริโต โหติ. ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฏิคฺคณฺหนฺติ. “ปฏิคฺคณฺหถ, ภิกฺขเว, ปริภุญฺชถ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตโต นีหฏํ ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อนติริตฺตํ ปริภุญฺชิตุนฺ”ติ.