7.11 กรณียโทฬสก
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ— “อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺฐานนฺติโก กถินุทฺธาโร. (1)
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ— “เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺฐานนฺติโก กถินุทฺธาโร. (2)
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ— “อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร. (3)
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. ตสฺส เอวํ โหติ— “อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺสํ, น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. ตสฺส สา จีวราสา อุปจฺฉิชฺชติ. ตสฺส ภิกฺขุโน อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร. (4)
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ “น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ— “อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสนฺ”ติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺฐานนฺติโก กถินุทฺธาโร. (5)
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ “น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ— “เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสนฺ”ติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺฐานนฺติโก กถินุทฺธาโร. (6)
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ “น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ— “อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสนฺ”ติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร. (7)
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ “น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. ตสฺส เอวํ โหติ— “อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺสนฺ”ติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. ตสฺส สา จีวราสา อุปจฺฉิชฺชติ. ตสฺส ภิกฺขุโน อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร. (8)
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ อนธิฏฺฐิเตน; เนวสฺส โหติ— “ปจฺเจสฺสนฺ”ติ, น ปนสฺส โหติ— “น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ— “อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นิฏฺฐานนฺติโก กถินุทฺธาโร. (9)
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ อนธิฏฺฐิเตน; เนวสฺส โหติ— “ปจฺเจสฺสนฺ”ติ, น ปนสฺส โหติ— “น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ— “เนวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. ตสฺส ภิกฺขุโน สนฺนิฏฺฐานนฺติโก กถินุทฺธาโร. (10)
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ อนธิฏฺฐิเตน; เนวสฺส โหติ— “ปจฺเจสฺสนฺ”ติ, น ปนสฺส โหติ— “น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. อนาสาย ลภติ, อาสาย น ลภติ. ตสฺส เอวํ โหติ— “อิเธวิมํ จีวรํ กาเรสฺสํ, น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. โส ตํ จีวรํ กาเรติ. ตสฺส ตํ จีวรํ กยิรมานํ นสฺสติ. ตสฺส ภิกฺขุโน นาสนนฺติโก กถินุทฺธาโร. (11)
ภิกฺขุ อตฺถตกถิโน เกนจิเทว กรณีเยน ปกฺกมติ อนธิฏฺฐิเตน; เนวสฺส โหติ— “ปจฺเจสฺสนฺ”ติ, น ปนสฺส โหติ— “น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. ตสฺส พหิสีมคตสฺส จีวราสา อุปฺปชฺชติ. ตสฺส เอวํ โหติ— “อิเธวิมํ จีวราสํ ปยิรุปาสิสฺสํ, น ปจฺเจสฺสนฺ”ติ. โส ตํ จีวราสํ ปยิรุปาสติ. ตสฺส สา จีวราสา อุปจฺฉิชฺชติ. ตสฺส ภิกฺขุโน อาสาวจฺเฉทิโก กถินุทฺธาโร. (12)
กรณียโทฬสกํ นิฏฺฐิตํ.