Skip to content

9.36 อปฺปฏินิสฺสคฺเคอุกฺเขปนียกมฺมปฏิปฺปสฺสทฺธิกถา

450.
1896

อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สํเฆน ปาปิกาย ทิฏฺฐิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺเขปนียกมฺมกโต สมฺมา วตฺตติ, โลมํ ปาเตติ, เนตฺถารํ วตฺตติ, ปาปิกาย ทิฏฺฐิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺเขปนียสฺส กมฺมสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิํ ยาจติ. ตตฺร เจ ภิกฺขูนํ เอวํ โหติ—  ‘อยํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ สํเฆน ปาปิกาย ทิฏฺฐิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺเขปนียกมฺมกโต สมฺมา วตฺตติ, โลมํ ปาเตติ, เนตฺถารํ วตฺตติ, ปาปิกาย ทิฏฺฐิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺเขปนียสฺส กมฺมสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธิํ ยาจติ. หนฺทสฺส มยํ ปาปิกาย ทิฏฺฐิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺเขปนียกมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภมา’ติ. เต ตสฺส ปาปิกาย ทิฏฺฐิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค อุกฺเขปนียกมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺติ—  อธมฺเมน วคฺคา …เป…  อธมฺเมน สมคฺคา…  ธมฺเมน วคฺคา…  ธมฺมปติรูปเกน วคฺคา…  ธมฺมปติรูปเกน สมคฺคา. ตตฺรฏฺโฐ สํโฆ วิวทติ—  ‘อธมฺเมน วคฺคกมฺมํ, อธมฺเมน สมคฺคกมฺมํ, ธมฺเมน วคฺคกมฺมํ, ธมฺมปติรูปเกน วคฺคกมฺมํ, ธมฺมปติรูปเกน สมคฺคกมฺมํ, อกตํ กมฺมํ ทุกฺกฏํ กมฺมํ ปุน กาตพฺพํ กมฺมนฺ’ติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, เย เต ภิกฺขู เอวมาหํสุ—  ‘ธมฺมปติรูปเกน สมคฺคกมฺมนฺ’ติ, เย จ เต ภิกฺขู เอวมาหํสุ—  ‘อกตํ กมฺมํ ทุกฺกฏํ กมฺมํ ปุน กาตพฺพํ กมฺมนฺ’ติ, อิเม ตตฺถ ภิกฺขู ธมฺมวาทิโน. อิเมปิ ปญฺจ วารา สํขิตฺตา”.

1897

จมฺเปยฺยกฺขนฺธโก นวโม.

1898

ตสฺสุทฺทานํ

1899

จมฺปายํ ภควา อาสิ,
วตฺถุ วาสภคามเก;
อาคนฺตุกานมุสฺสุกฺกํ,
อกาสิ อิจฺฉิตพฺพเก.

1900

ปกตญฺญุโนติ ญตฺวา,
อุสฺสุกฺกํ น กรี ตทา;_
อุกฺขิตฺโต น กโรตีติ,_
สาคมา ชินสนฺติเก.

1901

อธมฺเมน วคฺคกมฺมํ,
สมคฺคํ อธมฺเมน จ;
ธมฺเมน วคฺคกมฺมญฺจ,
ปติรูปเกน วคฺคิกํ.

1902

ปติรูปเกน สมคฺคํ,
เอโก อุกฺขิปเตกกํ;
เอโก จ ทฺเว สมฺพหุเล,
สํฆํ อุกฺขิปเตกโก.

1903

ทุเวปิ สมฺพหุลาปิ,
สํโฆ สํฆญฺจ อุกฺขิปิ;
สพฺพญฺญุปวโร สุตฺวา,
อธมฺมนฺติ ปฏิกฺขิปิ.

1904

ญตฺติวิปนฺนํ ยํ กมฺมํ,
สมฺปนฺนํ อนุสาวนํ;
อนุสฺสาวนวิปนฺนํ,
สมฺปนฺนํ ญตฺติยา จ ยํ.

1905

อุภเยน วิปนฺนญฺจ,_
อญฺญตฺร ธมฺมเมว จ;
วินยา สตฺถุ ปฏิกุฏฺฐํ,
กุปฺปํ อฏฺฐานารหิกํ.

1906

อธมฺมวคฺคํ สมคฺคํ,
ธมฺม ปติรูปานิ เย ทุเว;
ธมฺเมเนว จ สามคฺคิํ,
อนุญฺญาสิ ตถาคโต.

1907

จตุวคฺโค ปญฺจวคฺโค,
ทสวคฺโค จ วีสติ;
ปโรวีสติวคฺโค จ,
สํโฆ ปญฺจวิโธ ตถา.

1908

ฐเปตฺวา อุปสมฺปทํ,
ยญฺจ กมฺมํ ปวารณํ;
อพฺภานกมฺเมน สห,
จตุวคฺเคหิ กมฺมิโก.

1909

ทุเว กมฺเม ฐเปตฺวาน,
มชฺฌเทสูปสมฺปทํ;
อพฺภานํ ปญฺจวคฺคิโก,
สพฺพกมฺเมสุ กมฺมิโก.

1910

อพฺภาเนกํ ฐเปตฺวาน,
เย ภิกฺขู ทสวคฺคิกา;
สพฺพกมฺมกโร สํโฆ,
วีโส สพฺพตฺถ กมฺมิโก.

1911

ภิกฺขุนี สิกฺขมานา จ,
สามเณโร สามเณรี;
ปจฺจกฺขาตนฺติมวตฺถู,
อุกฺขิตฺตาปตฺติทสฺสเน._

1912

อปฺปฏิกมฺเม ทิฏฺฐิยา,
ปณฺฑโก เถยฺยสํวาสกํ;
ติตฺถิยา ติรจฺฉานคตํ,
มาตุ ปิตุ จ ฆาตกํ.

1913

อรหํ ภิกฺขุนีทูสิ,
เภทกํ โลหิตุปฺปาทํ;
พฺยญฺชนํ นานาสํวาสํ,
นานาสีมาย อิทฺธิยา.

1914

ยสฺส สํโฆ กเร กมฺมํ,
โหนฺเตเต จตุวีสติ;
สมฺพุทฺเธน ปฏิกฺขิตฺตา,
น เหเต คณปูรกา.

1915

ปาริวาสิกจตุตฺโถ,
ปริวาสํ ทเทยฺย วา;
มูลา มานตฺตมพฺเภยฺย,
อกมฺมํ น จ กรณํ.

1916

มูลา อรหมานตฺตา,
อพฺภานารหเมว จ;
น กมฺมการกา ปญฺจ,
สมฺพุทฺเธน ปกาสิตา.

1917

ภิกฺขุนี สิกฺขมานา จ,
สามเณโร สามเณริกา;
ปจฺจกฺขนฺติเมามฺมตฺตา,
ขิตฺตาเวทนทสฺสเน.

1918

อปฺปฏิกมฺเม ทิฏฺฐิยา,
ปณฺฑกาปิ จ พฺยญฺชนา;
นานาสํวาสกา สีมา,
เวหาสํ ยสฺส กมฺม จ.

1919

อฏฺฐารสนฺนเมเตสํ,
ปฏิกฺโกสํ น รุหติ;
ภิกฺขุสฺส ปกตตฺตสฺส,
รุหติ ปฏิกฺโกสนา.

1920

สุทฺธสฺส ทุนฺนิสาริโต,
พาโล หิ สุนิสฺสาริโต;
ปณฺฑโก เถยฺยสํวาโส,
ปกฺกนฺโต ติรจฺฉานคโต.

1921

มาตุ ปิตุ อรหนฺต,
ทูสโก สํฆเภทโก;
โลหิตุปฺปาทโก เจว,
อุภโตพฺยญฺชโน จ โย._

1922

เอกาทสนฺนํ เอเตสํ,
โอสารณํ น ยุชฺชติ;
หตฺถปาทํ ตทุภยํ,
กณฺณนาสํ ตทูภยํ.

1923

องฺคุลิ อฬกณฺฑรํ,
ผณํ ขุชฺโช จ วามโน;
คณฺฑี ลกฺขณกสา จ,
ลิขิตโก จ สีปที.

1924

ปาปา ปริสกาโณ จ,
กุณี ขญฺโช หโตปิ จ;
อิริยาปถทุพฺพโล,_
อนฺโธ มูโค จ พธิโร.

1925

อนฺธมูคนฺธพธิโร,
มูคพธิรเมว จ;
อนฺธมูคพธิโร จ,
ทฺวตฺติํเสเต อนูนกา.

1926

เตสํ โอสารณํ โหติ,
สมฺพุทฺเธน ปกาสิตํ;
ทฏฺฐพฺพา ปฏิกาตพฺพา,
นิสฺสชฺเชตา น วิชฺชติ.

1927

ตสฺส อุกฺเขปนา กมฺมา,
สตฺต โหนฺติ อธมฺมิกา;
อาปนฺนํ อนุวตฺตนฺตํ,
สตฺต เตปิ อธมฺมิกา.

1928

อาปนฺนํ นานุวตฺตนฺตํ,
สตฺต กมฺมา สุธมฺมิกา;
สมฺมุขา ปฏิปุจฺฉา จ,
ปฏิญฺญาย จ การณา.

1929

สติ อมูฬฺหปาปิกา,
ตชฺชนีนิยเสฺสน จ;
ปพฺพาชนีย ปฏิสาโร,
อุกฺเขปปริวาส จ._

1930

มูลา มานตฺตอพฺภานา,
ตเถว อุปสมฺปทา;
อญฺญํ กเรยฺย อญฺญสฺส,
โสฬเสเต อธมฺมิกา.

1931

ตํ ตํ กเรยฺย ตํ ตสฺส,
โสฬเสเต สุธมฺมิกา;
ปจฺจาโรเปยฺย อญฺญญฺญํ,
โสฬเสเต อธมฺมิกา.

1932

ทฺเว ทฺเว ตมฺมูลกํ ตสฺส,
เตปิ โสฬส ธมฺมิกา;
เอเกกมูลกํ จกฺกํ,
“อธมฺมนฺ”ติ ชิโนพฺรวิ.

1933

อกาสิ ตชฺชนียํ กมฺมํ,
สํโฆ ภณฺฑนการโก;
อธมฺเมน วคฺคกมฺมํ,
อญฺญํ อาวาสํ คจฺฉิ โส.

1934

ตตฺถาธมฺเมน สมคฺคา,
ตสฺส ตชฺชนียํ กรุํ;
อญฺญตฺถ วคฺคาธมฺเมน,
ตสฺส ตชฺชนียํ กรุํ.

1935

ปติรูเปน วคฺคาปิ,
สมคฺคาปิ ตถา กรุํ;
อธมฺเมน สมคฺคา จ,
ธมฺเมน วคฺคเมว จ.

1936

ปติรูปเกน วคฺคา จ,
สมคฺคา จ อิเม ปทา;
เอเกกมูลกํ กตฺวา,
จกฺกํ พนฺเธ วิจกฺขโณ.

1937

พาลา พฺยตฺตสฺส นิยสฺสํ,
ปพฺพาเช กุลทูสกํ;
ปฏิสารณียํ กมฺมํ,
กเร อกฺโกสกสฺส จ.

1938

อทสฺสนาปฺปฏิกมฺเม,
โย จ ทิฏฺฐิํ น นิสฺสชฺเช;
เตสํ อุกฺเขปนียกมฺมํ,
สตฺถวาเหน ภาสิตํ.

1939

อุปริ นยกมฺมานํ,_
ปญฺโญ ตชฺชนียํ นเย;
เตสํเยว อนุโลมํ,
สมฺมา วตฺตติ ยาจิเต.

1940

ปสฺสทฺธิ เตสํ กมฺมานํ,
เหฏฺฐา กมฺมนเยน จ;
ตสฺมิํ ตสฺมิํ ตุ กมฺเมสุ,
ตตฺรฏฺโฐ จ วิวทติ.

1941

อกตํ ทุกฺกฏญฺเจว,
ปุนกาตพฺพกนฺติ จ;
กมฺเม ปสฺสทฺธิยา จาปิ,
เต ภิกฺขู ธมฺมวาทิโน.

1942

วิปตฺติพฺยาธิเต ทิสฺวา,
กมฺมปฺปตฺเต มหามุนิ;
ปฏิปฺปสฺสทฺธิมกฺขาสิ,
สลฺลกตฺโตว โอสธนฺติ.

1943

อิมมฺหิ ขนฺธเก วตฺถูนิ ฉตฺติํสาติ.

1944

จมฺเปยฺยกฺขนฺธโก นิฏฺฐิโต.